วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หมอดูเกือบตกงาน ตอน สัดส่วนเท่าไหร่?


หมอดูเกือบตกงาน  ตอน  สัดส่วนเท่าไหร่?
อาจารย์สอบตก...

เย็นวันหนึ่ง ณ บ้านของผู้จัดการโกดังบริษัทแห่งหนึ่ง  ซึ่งใช้เวลาว่างรับพยากรณ์เป็นอาชีพเสริมมากว่ายี่สิบปี   มีหญิงมีอายุแต่งกายภูมิฐานคนหนึ่งเข้ามาพบและขอให้ดูดวงให้เธอ

ลูกค้าหญิง     สวัสดีค่ะ คุณหมอ  คือว่า เพื่อนดิฉันแนะนำมาให้มาดูดวงกับคุณหมอค่ะ
คุณหมอ        สวัสดีครับ  งั้นขอทราบวันเดือนปีเกิดเพื่อจะได้ผูกดวงด้วย
ลูกค้าหญิง     เกิดวันอาทิตย์   ที่      .......    เวลาไม่แน่นอนค่ะ  เพราะสมัยนั้นคลอดที่บ้าน

หลังจากพลิกดูปฏิทินร้อยปี  เพื่อเช็ควันเดือนปีแบบไทยๆ  เพื่อวางดวงด้วยวิชาเลข ๗ ตัว   อันเป็นวิชาที่ง่ายและแม่นยำวิชาหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเกิดที่แน่นอน

คุณหมอ         เอ๊ะ..  วันที่.. เป็นวันพุธนี่ครับ  ไม่ใช่วันอาทิตย์  คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าจำวันเกิดถูกต้อง
ลูกค้าหญิง      ไม่แน่ใจค่ะ   คุณแม่ดิฉันบอกว่า ดิฉันเกิดวันอาทิตย์  ส่วนวันที่เท่าไหร่ไม่ค่อยมั่นใจ  เพราะตอนนั้นแจ้งเกิดที่อำเภอ  ดิฉันเริ่มเดินได้แล้ว

คุณหมอ           งั้นคุณมีดวงของสามีคุณหรือปล่าวครับ  เผื่อจะได้ดูดวงผ่านทางดวงสามีของคุณ
ลูกค้าหญิง        ไม่มีค่ะ  สามีดิฉันก็ไม่ทราบว่าเกิดเมื่อไหร่เหมือนกัน    ใจจริงวันนี้ดิฉันตั้งใจจะมาดูเรื่องสามีดิฉันเป็นหลัก

"เอาละสิ  วันเกิดก็ไม่รู้  อย่าว่าแต่ผูกดวงกำเนิดไม่ได้เลย  แม้แต่ใช้วิชาเลข ๗ ตัว ก็ไม่ได้เหมือนกัน  นี่ลูกค้าอุตส่าห์ดั้นด้นมาหาเสียด้วย  จะปฏิเสธก็กระไรอยู่" คุณหมอนั่งคิดอยู่ในใจ "เอาอย่างนี้  ลองเอาวิธีของตาสอบตกมาใช้ก็แล้วกัน  จะได้ไม่เสียน้ำใจ"

คุณหมอ            คุณผู้หญิงครับ  ปกติถ้าไม่ทราบวันเดือนปีเกิด  คงไม่สามารถทายดวงชะตาให้ได้นะครับ  แต่ผมพอมีวิธีดูแบบอื่น
ลูกค้าหญิง         แบบไหนค่ะ  ดูลายมือ หรือดูไพ่

คุณหมอ            ไม่ใช่ทั้งสองอย่างครับ   ถ้าไม่รังเกียจ  ผมขอทราบสัดส่วนของคุณผู้หญิงหน่อยครับ
ลูกค้าหญิง        สัดส่วนดิฉัน...  มีด้วยหรือค่ะที่ดูจากสัดส่วน
คุณหมอ           ครับ   ถ้าไม่มีเวลาเกิดที่แน่นอน  คงต้องใช้วิธีนี้

ลูกค้าอึ้งไปพักหนึ่งก่อนที่จะตอบเสียงเบาๆ
ลูกค้าหญิง        ๓๖ - ๓๒ - ๓๘  ค่ะ
คุณหมอ           ขอเวลาวางดวงสักแป๊ปครับ

เมื่อคุณหมอวางลัคนาลงไปในดวงจักรราศีของวันนั้นแล้ว  ก็เริ่มทายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและที่ผ่านมาเมื่อไม่นานนี้  ลูกค้าก็รับว่าใช่และถูกต้องตามที่ทำนาย  หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงการทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ก็เสร็จสิ้นลง  ลูกค้ารายนั้นจากไปด้วยความยินดี 

"เกือบจะเป็นหมอดูอดงานไปซะแล้ว...   ดีนะ  ตาสอบตกแนะวิธีนี้ให้เมื่อเดือนที่แล้ว  ไม่งั้นคงจะเสียลูกค้าเหมือนลูกค้ารายอื่นที่ไม่รู้วันเกิด"

          /////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

หลายคนคงได้ยินมาว่า  วิชาสายสิบลัคน์มักจะดูรูปร่างหน้าตาของผู้ที่มาดูดวง  เพื่อตรวจเช็คเวลาเกิดที่แน่นอนก่อนที่จะทำนายออกไป  และคิดว่าคงจะเป็นเพียงวิชาเดียวที่ใช้อยู่  แท้จริงแล้ววิชาโหราศาสตร์สายจักรราศีแบบลัคนาเดียว  ก็มีวิธีการนี้อยู่เพียงแต่ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือไม่ค่อยนำมาใช้เท่านั้น   

การพยากรณ์โดยอาศัยสัดส่วนของผู้ที่มาดูดวงโดยเฉพาะผู้หญิงเป็นเพียงของเล่นอย่างหนึ่งที่ใช้ทายกันสนุกสนานในหมู่เพื่อนฝูงเสียมากกว่า  หรือบางครั้งก็เอาไปแอบถามสัดส่วนสาวๆ อย่างไม่น่าเกียจนักแลกกับการดูดวงให้  ผู้เขียนเคยนำไปใช้เป็นบางครั้งเวลาที่มีสาวๆมาขอให้ดูดวง  แต่ผู้เขียนไม่ค่อยอยากดูก็เลี่ยงมาอาศัยวิธีนี้แทน  ถ้าคนที่ต้องการดูดวงจริงๆ ก็จะบอกสัดส่วนให้ทราบ  แต่สำหรับสาวๆที่ต้องการแค่ดูเล่นๆ ส่วนใหญ่ก็จะถอยไปเองแบบว่าไม่ต้องปฏิเสธให้เสียน้ำใจ

หลักการของวิชานี้ไม่ใช่เรื่องยาก  เป็นการอาศัยหลักจักรราศีวิภาคที่แบ่งราศีเจ้าเรือนต่างๆ เป็นรูปร่างของคน ดังรูป


จะเห็นว่า สัดส่วนของคนเราโดยเฉพาะผู้หญิงที่วัดสัดส่วน อก เอว สะโพก  จะอยู่ในตำแหน่งของภพสหัชชะ – ปุตตะ – ปัตตนิ  หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมถึงใช้ภพแทนราศีตามหนังสือโหราศาสตร์ที่แบ่งร่างกายมนุษย์ตามราศี  โดยกำหนดให้ราศีเมษเป็นศีรษะ และปลายเท้าอยู่ที่ราศีมีน  หรือ
ราศีกับอวัยวะ
ราศีเมษ ศีรษะ , หน้า , แก้ม , ตา , หู , ปาก ฯลฯ
ราศีพฤษภ คอ, ด้านนอก-ในของคอ, หลอดอาหาร
ราศีเมถุน แขน,หัวไหล่,ระบบหายใจ
ราศีกรกฎ เต้านม, ช่องท้องส่วนบน , ตับ, ถุงน้ำดี, ตับอ่อน, กระเพาะอาหาร, มะเร็ง
ราศีสิงห์ หัวใจ
ราศีกันย์ ลำไส้
ราศีตุลย์ กะบังลม, หลังส่วนล่าง, ไต, รังไข่, ไส้ตรง, ไส้ใหญ่บางส่วน, ช่องคลอด
ราศีพิจิก อวัยวะสืบพันธุ์, กระเพาะปัสสาวะ, ทวารหนัก
ราศีธนู ตะโพก, ขาอ่อน
ราศีมังกร หัวเข่า, กระดูก, ข้อต่อ, ผิวหนัง, ขน, ผม
ราศีกุมภ์ ขาส่วนล่าง
ราศีมีน เท้า
ในกรณีที่กำหนดกายวิภาคกับราศีนั้น  เรากำหนดโดยวางลัคนาไว้ที่ราศีเมษอันเป็นลัคนาโลก  แต่ในความเป็นจริงมนุษย์เรามีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา  ดังนั้นลัคนาจรหรือตนุจรจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ราศีเมษเสมอไป

เมื่อเราทราบว่าภพสหัชชะ ปุตตะ ปัตตนิ จากการวัดสัดส่วนแล้ว  ย่อมที่จะหาภพตนุหรือลัคนาของบุคคลนั้นได้  เช่นเราทราบราศีที่เป็นภพปุตตะแล้ว เช่น ภพปุตตะอยู่ที่ราศีกันย์  เราก็นับย้อนทวนจักรไปห้าราศี  คือ วางลัคนาไว้ที่ราศีพฤษภ  เป็นต้น

โดยปกติเราจะใช้สัดส่วนที่เอว อันเป็นตำแหน่งภพปุตตะ เพียงอย่างเดียว  เนื่องจากบริเวณเอวจะเป็นส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับอกหรือสะโพก  แต่ที่ต้องถามถึงสัดส่วนทั้งหมดก็เพราะเป็นการน่าเกลียดที่จะถามสาวๆ ว่า เอวเธอเท่าไหร่จ๊ะ  แต่ถ้าถามสัดส่วนทั้งหมดก็ยังดูไม่น่าเกลียดสักเท่าไหร่สำหรับหมอดูผู้ชาย

การวางลัคนาจากสัดส่วนที่วัดได้
เริ่มจากการนำขนาดของเอวเป็นนิ้วมาทอนให้เหลือเลขเพียงตัวเดียว (หลักคล้ายคลึงกับเลขศาสตร์) โดยหารด้วย ๘   เหตุที่ใช้เลข ๘ หารเนื่องจากเราพิจารณาจากดาวเพียงแปดดวง 

เมื่อได้เลขเพียงตัวเดียวเช่น ตัวอย่างข้างบน  เอวของผู้มาขอคำทำนายคือ ๓๒ นิ้ว  เมื่อหารด้วย ๘  ได้พอดี  จึงใช้เศษเป็น ๘

ดูว่าดาว ๘ อยู่ราศีใดของดวงวันนั้น  เช่น ณ วันที่ลูกค้าหญิงรายนั้นไปหาหมอดู  ดาว ๘ อยู่ราศีเมษ อนุมานว่าราศีเมษเป็นภพปุตตะจรของเจ้าของสัดส่วน  ดังนั้นจึงวางลัคนาไว้ที่ราศีธนู ตามรูป




การอ่านดวงก็เหมือนการอ่านพื้นดวงเดิมนั่นเอง  ในกรณีรายนี้สามีไปมีกิ๊กอยู่นอกบ้าน  จึงไม่ทราบว่าการทำนายของหมอดูรายนี้จะสร้างความยินดีให้กับลูกค้ารายนี้หรือไม่...

สอบตก

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การทายพื้นดวงด้วย ทักษามหายุค ๒


การทายพื้นดวงด้วย ทักษามหายุค ๒








เกิดวันที่ ๒๖ กรกฏาคม พ.ศ ๒๕๓๓ เวลาประมาณ ๑๕.๓๘ น
ชื่อ เอกสิฏฐ์ 
   
ตนุนาม อยู่ในตำแหน่ง “มูละ” และ เดือนเกิด (เดือน ๑)  เป็น คู่ธาตุ กับปีเกิด (๗)
แสดงถึงชะตานี้ยังไงก็ต้องมีหลักทรัพย์ มีฐานะที่มั่นคง 

กาลกิณี-วิชา ของ ปีเกิด เป็น ดาว พุธ  ซึ่งหมายถึง คำพูด การสื่อสาร กระดาษ สิ่งพิมพ์   
ดังนั้นเจ้าชะตาควรระมัดระวังในเรื่องของคำพูด  งานเขียน งานเอกสาร  ความคิดทางด้านวิชาการ ที่จะถ่ายทอดให้บุคคลอื่นนั้นอย่าดุเดือดเกินไป เชือดเฉือนอารมณ์จนเกินไป จะทำให้เกิดภัย เกิดศัตรู แก่ตนเอง 

คาถา “กาลกิณี-ยานัง –เพชฌฆาต”  ให้ระวัง เรื่องรถ ยานพาหนะ การเดินทาง ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องยานพาหนะ รวมถึงอุบัติเหตุ รถที่ตนเองเป็นเจ้าของส่วนมากจะต้องเป็นรถเก่า รถมือสองถึงจะถูกโฉลก ถ้าซื้อรถใหม่ ต้องทำตำหนิไว้ เพื่อเป็นการแก้เคล็ด ** ดาวพุธ ในดวงชาติ ซ้อนดาวเสาร์  “เพชฌฆาต” ในดวงภพ **

ดาวศุกร์  ซึ่งหมายถึง กิเลส การเงิน ความรัก ความสวยความงาม  มีคาถา  “ศรี-อริ”  
เจ้าชะตามีการแต่งตัวที่ดูเด่น ชอบการแต่งตัว อาจจะมีรายจ่ายมากในเรื่องความสวย ความงาม เรื่องการเที่ยวเตร่ เฮฮา สังสรรค์ ในสถานเริงรมณ์  ความรักค่อนข้างมีอุปสรรค รวมถึงด้านการเงินด้วย ดังนั้นต้องควบคุมตนเองให้ดี   เพราะมันสำพันธ์ถึง คู่สัมบัติคือ ดาวจันทร์   “อุตสาหะ-วิบัติ-กดุมภะ”  คือการเงินจะวิบัติ

ดาวราหู   มีคาถา “เดช-กัมมะ-มรณะ”  แต่ไม่มีดาวในดวงกำเนิด
แสดงถึงการทำอาชีพราชการไม่รุ่งเรือง หรืออาจจะไม่ทำ ทั้งนี้เพราะไม่มีพลังและยังติด คาถา “มรณะ” คือการหยุดชะงัก 
ชีวิตและหน้าที่การงานนั้น อาจจะเกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทา ธุรกิจกลางคืนเช่น ผับ บาร์ บ่อน เงินกู้ แต่ก็อาจจะแหวกแนวไปทางด้านศาสนาหรือ ลัทธิความเชื่อทางวิญาณนิยม ตามอิทธิพลของดาวราหู และคู่สมบัติ ดาวพุธ “กาลกิณี”
สุขภาพให้ระวังเรื่องการควบคุม อาหาร  โรคทางเดินอาหาร เบาหวาน ไขมันในเส้นเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต และสมอง ทั้งนี้อ่านจาก **ดาวราหู  มีคาถา”มรณะ”  อยู่ที่ สมณะภูมิ ในดวงชาติ และอ่านร่วมกับดาวพุธ คู่สมบัติ ซึ่งมีคาถา “กาลกิณี” **


ดาวอังคาร เป็น “มนตรี-สมบัติ”  เป็นคู่สมบัติกับดาวเสาร์ ปีเกิด   
ชะตานี้ได้ที่พึ่ง ที่ปรึกษา ผู้ช่วยเหลือในด้านแรงงาน ด้านใช้กำลัง และด้านช่างฝีมือต่างๆ  แต่เสียดายที่ไม่มีดาวในดวงกำเนิด จึงทำให้คุณสมบัติในด้านนี้อ่อนลงไป

คู่ครอง  ดาวเสาร์  บริวาร-ศุภะ-ปัตนิ-ศีล-เพชฌฆาต
คงจะมีคู่ช้า ตามอิทธิพลของดาวเสาร์  และมิหนำซ้ำ ดาวอังคาร “มนตรี”  ก็ยังไม่มีดาว ดังนั้นอาจจะประมาณอายุ ๓๗-๔๔ ปี ถึงมีการแต่งงาน จะมีการคบหากันไปตามกฎตามเกณฑ์ ตามประเพณี  มีการจดทะเบียนสมรส  เป็นคู่ที่ผู้ใหญ่ดูไว้ให้ เป็นญาติห่างๆ หรือเป็นคู่ที่รู้จักกับครอบครัวเป็นอย่างดี อยู่ในละแวกบ้านเกิด 

วาสนา เป็นดาวพฤหัส ในดวงชาติอยู่ ภูมิขุนพล  แสดงถึงมี วาสนาดี เพราะอยู่ในเทวะภูมิ มีความรู้ความสามารถ เจ้าระเบียบ ค่อนข้างจะละเอียดในเรื่องเงินๆทองๆ ใฝ่ในศาสนา หรือทางเครื่องรางของขลัง แต่ก็ต้องดูว่า "กาลกิณี" ที่ดาวพุธ จะส่งผลแรงให้แก่ชะตานี้หรือไม่
วาสนา-เทศาตรี  แนวโน้มที่จะมีอาชีพค้าขาย
“วาสนา-อายุ-อำนาจ”  คู่สมบัติ เป็นดาวอาทิตย์  “มูละ-ลาภะ” ย่อมแสดงว่าวิถีชีวิตได้รับการมอบหมายให้ดูแลในเรื่องที่ดินหลักทรัพย์ ชีวิตมีโชคลาภในด้านนี้

พรมพล
๓๐ มกราคม ๒๕๕๕ 

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การปรับดวง เสริมดวง อธิบายดวง..

การปรับดวง เสริมดวง อธิบายดวง..
อาจารย์สอบตก..
ที่มา..Payakorn.com Webboard กระทู้ wb-10172 ปี ๒๐๐๔..
..........................................................................................
10172 : จากคุณ แจน [210.246.70.104] 13 Nov 2004 - 02:12 [37 คำตอบ]

ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนๆที่เคยผ่านเสาร์ทับจันทร์,เสาร์เล็งจันทร์กันหน่อยค่ะ

ดวงคุณพ่อกับน้องสาวมีจันทร์อยู่พฤษภทั้งคู่ ตอนเสาร์ทับพ่อโดนเด้งจากตำแหน่งก่อนเกษียณ

ส่วนน้องสาวลาออกจากงานว่างอยู่ 3 เดือนกว่าจะได้งานใหม่ที่ดีไม่แพ้งานเดิม

ตอนนี้ตัวเองเสาร์เล็งจันทร์อยู่ ภาวนาให้ไปเร็วๆ เพราะเสียแต่เงินเรื่องซ่อมรถ 
ตั้งแต่ ธ.ค.46 จนตอนนี้ ค่าซ่อมแสนกว่าๆแล้ว เดี๋ยวเครื่อง เดี๋ยวแอร์ 
อยู่ๆไฟข้างหายไปดื้อๆ เปลี่ยนอย่างไม่แท้ก็เกือบพันห้า

สุขภาพแม่ก็ไม่ดี ป่วยเรื้อรังเรื่องกระดูกกล้ามเนื้อ ทำกายภาพมาครึ่งปีแล้ว......

อาจารย์ท่านใดแนะนำวิธีผ่อนให้มันเบาๆลงบ้างคะ

(ทำบุญประเภทใดดี ได้ซื้อโลง เติมน้ำมันตะเกียง ซื้อพัดลมถวายวัด(ให้ปัดเป่าเคราะห์) 
ตักบาตร ผ้าป่า บริจาคสร้างโรงเรียน รพ. ทำมาหมดแล้วค่ะ

ตอนนี้ทำใจสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน(หวังว่าคงไม่มีอะไรแย่มาอีก)
....................................................................................................
23. สอบตก [203.155.250.186] 15 Nov 2004 - 11:04
เพิ่งเห็นกระทู้นี้

น้องสาวคนถัดไปจากคุณแจน และคุณพ่อของคุณ จะมีปัญหาคล้ายๆ กัน
และปีหน้านี้ไม่ค่อยดีสำหรับทั้งสองคน

ส่วนคุณแม่ของคุณให้ระวังสุขภาพช่วงปลายปี ๔๘ และปี ๔๙ ด้วยนะ

ดูจากยามจร วิธีแก้สำหรับคุณพ่อและน้องสาวคุณนั้น

๑. ให้ทั้งสองคนถือศีล ๕ ให้ครบ โดยเฉพาะศีลข้อ ๕ เรื่องสุราเมรัย พยายามอย่าไปแตะต้อง

ถ้าจะใส่พระห้อยคอ แนะนำพระปางค์สมาธิ หลวงพ่อโสธรก็ดีครับ

๒. หาแป๊ปซี่กระป๋องไปตั้งไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้าน

(ถ้าบริเวณนั้นเป็นหิ้งพระ ก็ให้ถวายขึ้นหิ้งได้เลย ควรเปลี่ยนทุกอาทิตย์และนำแป๊ปซี่กระป๋องนั้นไปใส่บาตร)

๓. ทางทิศใต้ของบ้าน มีศาลพระภูมิหรือศาลเจ้าที่จีน หรือปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้หรือไม่?

ถ้ามีให้หาหรือเปลี่ยนช้าง ม้า คนรับใช้ นางรำ สำหรับศาลพระภูมิ หรือของที่อยู่ในศาลเจ้าที่จีน

ถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ผูกผ้าแพรสีเขียว จะช่วยลดปัญหาให้เบาบางได้บ้าง

สำหรับตัวคุณเองนั้น ถ้าห้อยพระปางค์นาคปรก ยิ่งเป็นพระที่มีอยู่แล้วที่บ้านยิ่งดี จะช่วยหนุนตัวคุณเองให้ดีขึ้น
.................................................................................................
29. เรียนคุณสอบตก [210.246.75.245] 15 Nov 2004 - 16:13

คุณพ่อกับน้องคนรอง ตอนนี้เสาร์ออกมาจากการทับจันทร์ที่ราศีพฤษภนานแล้วนะคะ
นี่แปลว่า เมื่อเสาร์ย้ายอีกทีก็ไม่ดีหรือคะ

อย่างไรก็ตามจะลองทำตามที่คุณแนะนำมาค่ะ ขอบคุณค่ะ

ปล.กระทู้10183อ่านแล้วดีจังค่ะ มีประโยชน์อ่านเข้าใจง่าย

มีข้อสงสัยตรงญ.เกิดวันจันทร์ตามตย.ต้องกาที่ 7เพราะอะไรคะ เลยยังงงงงนิดนิด
........................................................................................................
30. ถึงคุณแจน [203.155.250.186] 15 Nov 2004 - 17:15

ผมใช้การจับยามแก้ปัญหาเฉพาะหน้า วิธีการแก้ไขของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน

กรณีนี้ คุณพ่อของคุณและน้องสาวคุณใช้วิธีแก้อย่างเดียวกัน

จะอธิบายให้ทราบเล็กน้อย ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเข้าใจก็ได้

จากยามที่อ่านคุณพ่อและน้องสาวคุณ ติด บริวาร-อริ(คนรอบข้างอาจมีภาระช่วยเหลือ)
สัมพันธ์กับ เดช-มรณะ(การออกจากงาน)

เป็นอนุเกษตร คือจะมีเหตุการณ์อย่างนี้อีก ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกในต้นปี ๔๙

การแนะนำให้ถือศีล ๕ หรือใส่พระปางค์สมาธิ (แนะนำหลวงพ่อโสธร) เพราะต้องการปรับให้ตัวคุณพ่อและน้องสาวคุณดีขึ้น

การวางแป๊ปซี่กระป๋อง (ห้ามใช้โค๊กกระป๋อง)
เพราะปรับเรื่องการงานของทั้งสองคนให้ราบรื่นขึ้น เป็นการปรับแก้คล้ายๆ การแก้ฮวงจุ้ย

อีกอย่างการนำแป็ปซี่กระป๋องไปใส่บาตรบ่อยๆ ทำให้จิตใจของผู้ใส่บาตรผ่องใส เป็นผลดีกับคนทำ
(จุ๊..จุ๊..อย่าไปบอกใครนะ เป็นหาเรื่องบังคับให้ใส่บาตรด้วย)

การแนะนำให้หาผ้าแพรสีเขียวผูกต้นไม้
หรือเปลี่ยนของที่ศาลเจ้าที่หรือศาลพระภุมิ เป็นการลดความเครียดและทำให้จิตใจสบายขึ้น

วิธีการแก้ไข บางครั้งแก้ที่จุดเดียวอาจจะไม่ได้ผลดีนัก เพราะมีปัจจัยอื่นไม่ได้มีสาเหตุเดียว จึงต้องแก้ไขหลายจุดหน่อย

ส่วนกระทู้ 10183 วิธีการนับดิถี จะนับตามตารางทักษา ซึ่งจะมีเลข ๑ ๒ ๓ ๔ ๗ ๕ ๘ ๖ แล้วย้อนมา ๑ ใหม่

เมื่อ ญ เกิดวันจันทร์ ดิถี ๔ ค่ำ จึงนับจาก ๒ ไป ๓ ไป ๔ ไป ๗ จึงต้องกาไว้ที่ดาว ๗ ครับ

สอบตก

ทายดวงจากชื่อ ด้วย ทักษามหายุค ตอนที่ ๔




การวิเคราะห์ดวงชะตาจากชื่อ ด้วยวิชา ทักษามหายุค

ดวงนาม สาหร่าย อายุ ๖๙ ปี เพศหญิง วันเสียชีวิต ๖ มีนาคม 55 เวลาประมาณ ๙.๐๐ น ไม่เกิน ๑๐.๐๐ น
สาเหตุ โดนประตูไฟฟ้าหนีบเสียชีวิต ระหว่างทำงาน อาชีพ รับซื้อของเก่า

แนวการวิเคราะห์ 
ในดวงนาม ยุคใหญ่ อายุ ๖๕ ปี ถึงอายุ ๗๒ ปี อยู่ที่ดาว ราหู 
ยุคแทรก(อายุจร ๖๙ ปี) อยู่ที่ดาวอังคาร

ดวงนามดาวราหู กาลกิณี ซ้อน ดาวอาทิตย์ อายุ-วิบัติ-สัจจะ
แสดง ถึงวัยนี้เจ้าชะตาในเรื่องของ อายุ สุขภาพ ชีวิต มีโอกาสที่จะวิบัติ แบบฉับพลัน ตามอิทธิพล ของดาวอาทิตย์ และ มีสัจจะบารมี กำกับ หมายถึงจะเกิดขึ้นแน่นอน

ดวงเทวดาดาวราหู อายุ-วิบัติ-สัจจะ ดาวอาทิตย์ อริ
เป็นการย้ำในเรื่อง อายุ จะวิบัติ ว่าจะต้องเกิดขึ้นแน่ ในช่วงอายุยุคใหญ่ ๖๕-๗๒ ปีนี้

วันเกิดเหตุ ดิถี ชี้ที่ดาวอาทิตย์ อริ ดวงนามดาวอาทิตย์ อายุ-วิบัติ
ดิถี ชี้ชัด ว่า กรรม ทำให้เกิดการ วิบัติ ของอายุ หรือสุขภาพ และคาถาในดวงนามและดวงเทวดานั้นสอดคล้องกัน แสดงถึง กรรม ที่กำหนดมาของเจ้าชะตานั้นไม่เปลี่ยนแปลง

วันเกิดเหตุ เป็นวันอังคาร และเวลา ประมาณระหว่าง เก้านาฬิกา ถึง สิบนาฬิกา เวลาลงที่ดาวอังคาร ในดวงเทวดา ดาวอังคาร มีพระคาถา อุตสาหะ-มรณะ-เพชฌฆาต 

ดวงนาม อายุ ๖๙ อยู่ที่ ดาวอังคาร จากดวงภพ ซ้อน ดวงชาติ ที่ ดาวศุกร์ มรณะ
แสดงให้เห็นว่า เมื่อถึงวัยอายุ ๖๙ ปีนี้ เจ้าชะตา ถึงกาลแห่ง มรณะ

ดวงเทวดา ดาวอังคาร อุตสาหะ-มรณะ-เพชฌฆาต
ดวงเทวดาได้ชี้ว่า อายุ๖๙ ปีนี้ จะมีอุบัติเหตุ เพราะสาเหตุของการเดินทาง และมีโอกาสที่จะเสียชีวิต

ดวงเทวดา ดาวอังคาร เป็นคู่สมบัติกับ ดาวเสาร์ มีพระคาถา กาลกิณี-ลาภะ 
แสดง ถึง สาเหตุของอุบัติเหตุ ที่มาจาก อิทธิพลของ พระคาถากาลกิณี ที่มาย้ำ และจะเกิดเหตุจากระหว่างการเดินทาง การหารายได้ ผลประโยชน์ และที่สำคัญที่ต้องสังเกต คือ คู่สมบัติ ย่อมส่งอิทธิพล ถึงกัน

ดวงนามดาวเสาร์ อุตสาหะ-กัมมะ-ตนุ-ยานัง-เพชฌฆาต
ดวง นาม ก็ยังมาย้ำว่าจะเกิดเหตุในขณะเดินทาง ระหว่างการทำงาน โดยเหตุจากยานพาหนะ และประตู ที่เป็นเหตุที่ทำให้เสียชีวิตนั้น เป็นประตูเหล็ก – โลหะ และมีล้อ บังคับด้วยไฟฟ้า เพื่อที่จะหมุนมอเตอร์ให้ล้อเลื่อน ซึ่งเป็นความหมายของพระคาถา ยานัง 
ดาว อังคาร หมายถึง โลหะ เครื่องมือช่าง เครื่องจักรกล ดาวเสาร์หมายถึงระบบไฟฟ้า และเกิดจากการประมาท เลินเล่อ บกพร่อง เพราะ พระคาถากาลกิณี

ดวงนาม จากดวงชาติ ไปดวงภพ ดาวเสาร์ ซ้อนกับดาวศุกร์ มรณะ และ จากดวงภพ ไปดวงชาติ ดาวเสาร์ ซ้อนกับ ดาวจันทร์ เดช-มหัทธโน
ใน ดวงนามได้ระบุไว้แล้วว่า เจ้าชะตาได้เสียชีวิต และมีข่าวโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ในหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ซึ่งเกิดขึ้นตามอำนาจของพระคาถา เดช-มหัทธโน

สิ่งที่ต้องสังเกตคือ ดวงเทวดา ดาวศุกร์ เดช-มหัทธโน ดวงนามดาวศุกร์ มรณะ และเป็นดาวคู่สมบัติ มาย้ำ

ดวง นาม ดาวศุกร์ มรณะ และดวงเทวดา ในดวงชาติ อยู่ ที่ สมณะภูมิ ชี้ให้เห็นว่าตายเพราะในตำแหน่ง ลำคอ ใบหน้า ศีรษะ และดาวศุกร์ยังหมายถึง ลำคอ

บทความการวิเคราะห์ดวงนามนี้ ก็เพื่อแสดงว่า วิชา “ทักษามหายุค” เมื่อหมั่นเพียรในการศึกษา และหาประสบการณ์ด้วยการทำนาย จนชำนาญแล้ว ก็สามารถอ่านดวงจากชื่อ ได้แม่นยำ สามารถรู้ล่วงหน้าว่าเมื่อไหร่ วัยไหน อายุไหน จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และสามารถแนะนำให้เจ้าชะตา ว่าควรป้องกัน แก้ไขอย่างไร 
เมื่ออ่านดวงจาก ชื่อได้แม่นยำ และชำนาญแล้ว ทุกท่านก็สามารถจะ ตั้งชื่อเด็ก หรือ ผลัดนามผู้ใหญ่ ได้อย่างสมบรูณ์แบบ เพื่อให้เหมาะสมกับเจ้าชะตาโดยไม่มีผลกระทบทีตามมา ไม่ว่ากับตัวของเจ้าชะตาเองหรือคนในครอบครัว

ดวงชะตานี้ผู้เขียน ได้ใช้หลักของการชำระอายุ เพื่อหายุคใหญ่ ยุคแทรก เพื่อเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ ว่าดวงนามนี้ เป็นอย่างไร เพราะอะไรจึงเกิดเหตุ ทั้งนี้เพราะ ตนุนามเสาร์ นี้ย่อมไม่เกิดเหตุแบบนี้ทุกคน
พรมพล

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ดวงเทวดากับตนุนาม (ตอนคดีความ)


ทักษายุค ภาคภูธร(ต่างจังหวัด) ว่าด้วยเรื่องทาย ตนุนาม ดวงเทวดา และ กาลชะตา

วันที่ พยากรณ์ 25/5/2555  ตรงกับ ศุกร์ ขึ้น 5 ค่ำ  เดือน 7 ปีมะโรง
ช่วงเวลาที่ถาม 15.28 น.

-------------------------------------------------------------------------------------------------

5 บริวาร-ศุภะ-ปัตนิ-ยานัง-เนกขัมมะ-ราชา ดวง ภพ-ชาติ 5 ย้ำ 5 ที่ กรุ
ชั่วโมงตก 1 ศรี-สมบัติ-สหัชชะ-ปิตา-อธิษฐาน-ภูมิปาโล
นาทีตก 4 มนตรี-ปัญญา-อริ-รุกขา-ศีล-เพชฌฆาต

---------------------------------------------------------------------------------------------------

เจ้าชะตา...สวัสดีค่ะ มาดูดวงค่ะ
ผู้เขียน.....สวัสดีครับ จะให้ทำนายเรื่องอะไรครับ

เจ้าชะตา....จะถาม เรื่องลูกชายค่ะ ตอนนี้ โดนคดีจะ ติดคุกไหม
ผู้เขียน......ขอทราบชื่อ เจ้าตัวหน่อยครับ

เจ้าชะตา....แจ้งชื่อมา นับ อักขระได้ 5 ตัว ได้ตนุนาม 5
ผู้เขียน......สงสัยว่าจะต้อง ถูกควบคุม จำกัดบริเวณครับ  5 (ราชา=ราชการ) (บริวาร=สภาพแวดล้อม) (กรุ=ที่จำกัด ที่คุมขัง คุก) แปลได้ว่า สถานที่ กักกัน คุมขัง ของหน่วยราชการ

เจ้าชะตา.....ถ้าติดคุก จะนานไหมค่ะ
ผู้เขียน........อาจจะถึง 5 ปีครับ (5 กรุ)

เจ้าชะตา....จะมีใครช่วยเหลือได้ไหมค่ะ ถ้าวิ่งเต้น ให้คนช่วย หรือ สู้คดี
ผู้เขียน......ดูจาก เวลาที่ถาม คงจะลำบากครับ (4 มนตรี-อริ) เพราะจุดเวลา บ่งบอกว่า มีอุปสรรค ในการหาคนช่วยเหลือ อยู่ในฤกษ์ที่ คดีจะแก้ไขยาก เกี่ยวกับคดีความ (เพชฌฆาต-อริ) (เพชฌฆาต=คดี อริ=ติดขัด) คิดว่าการ พูดความจริง น่าจะดีกว่า และ ทำให้อะไรดีขึ้นบ้าง (4 ศีล) (4 คำพูด ศีล=ข้อควรปฏิบัติ)

เจ้าชะตา.....ขอบคุณค่ะ จะลองไป ทบทวนปรึกษากันอีกที ว่าจะเอายังไง

มาวันที่ 20/6/2555 เจ้าชะตาได้มาพบ ผู้เขียนอีก และ ได้แจ้งว่า ตกลง ลูกชายได้ให้การตามความจริง และได้รับ การลดหย่อนโทษ เหลือ 3 ปี จากเดิม 4 ปีกว่า

ดวงเทวดากับตนุนาม (ตอน กะดุมพะนาม)


ทักษายุค ภาคภูธร(ต่างจังหวัด) ว่าด้วยเรื่องทาย ตนุนาม  (ชื่อจริง) จากดวงเทวดา


วันที่ พยากรณ์ 10/1/2554  ตรงกับ วันจันทร์ ขึ้น 6 ค่ำ  เดือน 2 ปีขาล (เถาะ)
ช่วงที่ถาม 13.23 

----------------------------------------------------------------------------------------------

บทความนี้จะเป็นการทาย เรื่องการเงิน จาก กะดุมพะนาม

เจ้าชะตา // สวัสดีครับ มาดูดวงค่ะ
ผู้เขียน // สวัสดีครับ ขอชื่อหน่อยครับ

เจ้าชะตา // .....(นับอักษรได้ 5 ตัว ได้ 5 เป็นตนุนาม)
ผู้เขียน // จะถามเรื่องอะไรครับ

เจ้าชะตา // ถามเรื่องการเงินหน่อยครับ ทำไมมีแต่ปัญหาเรื่องเงินตลอด หาเท่าไรก็ไม่พอใช้ เหมือนยิ่งดิ้นยิ่งเป็นหนี้
ผู้เขียน // ดูจาก ตำแหน่งการเงินแล้วไม่น่าเสียหายอะไร สงสัยว่า คุณจะขยันมากเกิน แต่ว่าที่ขยันที่ว่านี่ ขยันโขมยลักเงิน พ่อ หรือ ญาติ ๆๆ นะครับ เมื่อสมัยก่อน  ( 5 ตนุนาม ดังนั้น 6 จึงเป็น กะดุมพะนาม ) (ดวง ชาติ-ภพ ดูอดีต 6 ซ้อน 5) เท่ากับ 6 กะดุมพะนาม สัมพันธ์ 5 พันธุ-ปิตา-วิริยะ-โจโร  จึงทายชอบขโมยเงิน พ่อ และ ญาติ
เจ้าชะตา // ใช่ครับ ตอนเด็ก ๆๆ ชอบโขมยเงินพ่อแม่
ผู้เขียน // คิดว่าต้องแก้ ตรงส่วนนี้ด้วยครับ

เจ้าชะตา // จะแก้ยังไงครับ
ผู้เขียน // ที่เห็นเขาทำกัน ก็ เอาเงินใส่ซอง พร้อมดอกไม้ ธูปเทียน ใส่พาน ขอขมากรรมกับพ่อแม่ที่ได้เคย ลักโขมยเงิน ให้พ่อแม่เอ่ย อโหสิกรรมให้ ต่อไปเวลามีรายได้ ก็ ใส่ซองให้พ่อแม่เป็นประจำ ก็ จะทำให้เจริญขึ้น เรื่องการเงิน แต่ยังมีอีกอย่างที่ผมคิดว่า เป็นเหตุทำให้คุณทำอะไรไม่ขึ้น

เจ้าชะตา // มีอะไรติดขัดช่วยบอกด้วยนะครับ
ผู้เขียน // ดูตำแหน่งการเงิน เหมือนว่า จะมีความมั่นคง (6 กะดุมพะนาม มี คาถา ภูมิปาโล) และบ้านที่อยู่น่าจะ ดีมีโชคลาภ ( มูลละ-ลาภะ) แต่ถ้าดูไปข้างหน้า การเงินจะเสียหาย และ อาจมีคดีเกี่ยวกับการเงินได้ (6 ซ้อน 1 ติด เพชฆาต) และเหตุทั้งหลายนี้ อาจเพราะ คุณเคยไปเกี่ยวข้องรู้เห็นเกี่ยวกับการแท้งครับ เพราะลักษณะบ้าน มีวิญญานเด็กอยู่ ( 6 มี มูลละ-ปุตตะ ซ้อน 1 มรณะ-ทาน-เพชฌฆาต)  และเด็กมีแรงอาฆาต(เพชฌฆาต)

เจ้าชะตา // ใช่ครับ ผมเคย ให้แฟนทำแท้งครั้งหนึ่งครับ
ผู้เขียน // ต้องแก้ไขทำบุญส่วนนี้ด้วยครับ จึงจะช่วยบรรเทา กรรมเรื่องการเงิน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ดวงเทวดา 5 ตนุนาม เดช-กัมมะ-พันธุ-ปิตา-วิริยะ-โจโร
ดวงเทวดา 6 กะดุมพะนาม มูลละ-ลาภะ-ปุตตะ-มาตา-ขันติ-ปาโล
ดวงเทวดา 1 ปุตตะนาม อุตสาหะ-วิชา-มรณะ-ยานัง-ทาน-เพชรฆาต

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การอ่านพื้นดวงด้วยวิชา ทักษามหายุค ตอนที่ ๑

การอ่านพื้นดวงด้วยวิชา ทักษามหายุค ตอนที่ ๑





การอ่านพื้นดวงด้วยวิชา ทักษามหายุค

บทความนี้ผู้ขียนได้ค้นคว้าเรียบเรียงจากสมุดแลคเชอร์ของ ท่านอาจารย์กิ่งกานต์ จันทร์วรุตพงศ์  ตั้งแต่สมัยที่ท่านได้เรียนกับ บรมครู ส.สัจจญาณ  ในปีพ.ศ ๒๕๒๓

นอกจากนี้ผู้เขียนได้สอดแทรกความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมากับครูทุกท่านของผู้ เขียนในปัจจุบันนี้ไว้ในบทความนี้ด้วยเป็นบางส่วน ดังนั้นบทความนี้ เมื่อนักศึกษาวิชา  ทักษามหายุค ทุกๆท่านเมื่อได้อ่านได้ศึกษาแล้ว ก็เปรียบเสมือนว่าท่านได้ศึกษากับ บรมครู ส.สัจจญาณ และนอกจากนั้นท่านก็ยังได้ความรู้จาก ครู ทักษามหายุค ในยุคปัจจุบันนี้อีกด้วย

ผู้เขียนขอเชิญชวนทุกท่านกราบระลึกถึงพระคุณของ บรมครู ส.สัจจญาณ และ ครูทุกๆท่านใน ณ ที่นี้ด้วยครับ

ชะตาหญิง
เกิดวันที่  ๒๐ เมษายน ๒๔๗๐  ตรงกับ วารจันทร์  แรม ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีเถาะ

การพยากรณ์นั้นจะจับเอาอะไรมาทำการพยากรณ์ก่อนก็ได้ ในที่นี้จับเอา วาสนา มาพยากรณ์ก่อน

ดาว ๓  วาสนา-กาลกิณี  ชะตาใด วาสนาต้องกาลกิณี  แสดงถึงชีวิตไม่มีทางถึงจุดสุงสุด ได้ตำแหน่งสุงสุดก็แค่เป็นรอง   มีดีก็ดีไม่ถึงที่สุด
ดาว ๓  วาสนา ถูกบีบด้วย ดาว ๒ ชาติ และ ดาว ๔ บริวาร  แสดงถึง ดาววาสนานั้นไม่บริสุทธิ์  ทำให้ชะตาถูกบีบอยู่ในที่จำกัด ชะตาตกอยู่ในภาวะคับขันอยู่บ่อยครั้ง จะคิดการอะไรก็ไม่คล่องตัว อุปมาเหมือน เรือใหญ่วิ่งอยู่ในคลองเล็ก รถบรรทุกวิ่งอยู่ในซอยที่คับแคบ  ชีวิตถ้าไม่ระมัดระวังก็จะเกิดการสูญเสีย ตัวเองป่วยไข้ หรือเสียญาติผู้ใหญ่

หมายเหตุ   วาสนา ดาว ๓  ในดวงชาติ จะอยู่ใน สมณะภูมิ   ดัง นั้นถ้าดาว ๓ เป็นดาววาสนาที่บริสุทธิ์ คือไม่ถูกบีบ เบียน บัง หรือต้อง กาลกิณี และ มรณะ   ถ้าเป็นชาย ถ้ารับราชการทหาร-ตำรวจ ก็จะต้องมียศถึงชั้นนายพล  ถ้าเล่นการเมืองก็จะเป็นรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี  ถ้าเป็นสมณะ ก็จะมีตำแหน่งถึง ราชาคณะ สังฆราชา ถ้าเป็นหญิง ก็จะเป็นถึงขั้นคุณหญิง ท่านผู้หญิงได้รับเหรียญตรา เครื่องราช  หรือจะร่ำรวย มี ยศฐาบรรดาศักดิ์ มีชื่อเสียงในวัยกลางคน

หมายเหตุ  ดาววาสนา ตรงกับดาวปีนักษัตรใด   ชีวิตของ บุคคลนั้นจะอยู่ไต้อิทธิพลของ ปีนักษัตรนั้น  เช่นชะตานี้ ชีวิตจะตกอยู่ภายไต้อิทธิพลของ ปีขาล-จอ หรือคนที่เกิดในปีขาล-จอ  เมื่อต้องการที่พึ่ง ก็จะได้คนปีขาล-จอ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เรียกได้ว่า วาสนาต้องกัน

วาสนา-ปัตนิ –กาลกิณี   ปัตนิมีดาว ขึ้นในดวง และยังย้ำด้วย วาสนา ดังนั้นเจ้าชะตาจะมีวาสนากับเพศตรงข้าม เช่นได้ร่วมงาน ทำงาน ในกลุ่มของเพศตรงข้าม  ในเรื่องความรักก็เช่นกัน จะมีเพศตรงข้ามผ่านเข้ามาในชีวิตมาก แต่ไม่ประสพความสำเร็จหรือได้ไม่ดั่งใจ เพราะอำนาจของ กาลกิณี

ดาว ๗  อายุ-วิบัติ-เคหา   คู่สมบัติกับ ดาว ๓  กาลกิณี-ปัตนิ-ภพ   เจ้าชะตาในเรื่องชีวิตการครองเรือนมีปัญหาเพราะ อำนาจของ วิบัติ เจ้าชะตามีโอกาสได้สามีที่มีตำหนิ ผ่านการครองเรือนมาแล้ว เป็นพ่อม่าย  หรือมีสามีอายุมากกว่า

ดาว ๔  บริวาร-มรณะ   ปีเกิดต้องมรณะ  ทำให้ สามเดือน ถึง เจ็ดเดือน แรก ต้องเจ็บป่วย หรือเสียญาติผู้ใหญ่ หรือต้องพลัดพรากจากบ้าน จากครอบครัว ถูกยกให้คนอื่นเลี้ยง และในเรื่องนี้ยังย้ำจาก  ดาว ๔  บริวาร-ทาน  

ชะตาใด ปีเกิดเป็นมรณะ  จะทำให้การเปลี่ยนแปลงของวงค์ ตระกูลค่อนข้างผิดปกติ ตระกูลจะสืบทอดทางทายาท สืบทอดทางสกุลจะหยุดชะงัก จะมีลูกชายน้อย หรือการสืบทอดทาง ยศฐา บรรดาศักดิ์ก็จะมีแนวโน้มที่สิ้นสุดลงเช่นกัน ทั้งนี้เพราะอำนาจของ คาถามรณะ ซึ่งหมายถึงการหยุดชะงัก  หยุดการเจริญ 

ดาว ๕  ตนุ   เป็นดาวที่ค่อนข้างจะบริสุทธิ์ แม้จะถูกดาว ๗ ดิถี เบียนก็ตาม
ตนุ เป็น เดช  มีเกียรติยศ มีชื่อเสียง  รักษาชื่อเสียง  เจ้าชะตามุ่งไปทางด้านนี้  ในดวงชาติ อยู่ภูมิ ราชครู  เป็นครูบาอาจารย์  เป็นแพทย์
ตนุ เป็น ศีล  เป็นคนที่มีระเบียบ มีวัฒนธรรม อยู่ในกรอบกฎ อยู่ศีล

ดาว ๗ ดิถี  เป็น สัจจะ  วิถีชีวิต รักความจริง ความตรง รักษาสัจจะ  แต่ถูกบีบด้วยดาว ๔ กับดาว ๕  แสดงถึงวิถีชีวิตต้องผจญกับบุคคลที่ตรงกันข้ามกับเจ้าชะตา เจอคนที่ไม่มีสัจจะ ชีวิตเจอแต่ในเรื่องไม่จริง ทำให้วิถีชีวิตต้องต่อสู้เพื่อที่จะได้มาในเรื่องนี้
ดาว ๗  เป็นดาวอายุ  มี ดิถีกำกับ  ชีวิตจะเกี่ยวข้องกับ เรื่องสุขภาพ แพทย์  ยา คนป่วย หรือโหราศาสตร์

วิริยะบารมี ดาว ๘  ไม่มีดาว แสดงถึงความเพียรมีไม่ถึงที่สุด เลิกล้มกลางคัน ความเพียรอ่อนแอ

ขันติบารมี ดาว ๑  ไม่มีดาว ความอดทนไม่มี ทนเท่าที่จะทนได้   ในดวงชาติ ยังอยู่ภูมิ กัมมะ ธาตุลม


ถึงแม้ชะตานี้จะมี คู่ธาตุ ๒-๕ ปรากฏในดวง  ซึ่งแสดงถึงหลักทรัพย์ และความมั่นคงในชีวิต  แต่ ดาว ๒ ต้อง อริ และ ทลิทโทฤกษ์ จึงทำให้มีอุปสรรคและปัญหา มีเหมือนไม่มี มีกรรมสิทธิ์ แต่ยังไม่สมบรูณ์ อีกทั้ง ดาว ๖ มูละ  ไม่มีดาวปรากฏในดวงกำเนิด จึงทำให้ชะตานี้ มี่ที่ดิน มีหลักทรัพย์ มีมรดก ก็เหมือนไม่มี ไม่มีสิทธิหรืออำนาจอย่างเด็ดขาด  ยกเว้นเจ้าชะตาจะมีสามี มีบุตร ที่เกิด ปีมะเส็ง  ซึ่งจะช่วยทำให้เรื่อง มูละ ของเจ้าชะตาดีขึ้น มีอิสระในการตัดสินใจในที่ดิน หรือได้รับมรดก

ดาว ๖ ธาตุน้ำ  ในดวงชาติ อยู่ภูมิ ทุกขตะ (อบายภูมิ)  บ้าน ที่ทาง  จะอยู่ไกล้น้ำ ใกล้เรือ  หรือที่บ้านมีสระน้ำ บ้านอยู่ใกล้แหล่งอบายมุข ร้านเหล้า หรือละแวกนั้นเป็นแหล่งเสื่อมโทรม มีแต่คนกินเหล้า เมายา เล่นการพนัน

ดาว ๑ และ ดาว ๔ ต้องอ่านคู่กันเสมอ  ถ้านับดาว ๑ ปีวอก-ชวด เป็นบริวาร  ดาว ๖ จะเป็น กาลกิณี-มูละ  ทรัพย์สมบัติ จะค่อยๆหมดไปในที่สุด  ยิ่งถ้ามีบุตร หรือ สามี เกิดในปี วอก-ชวด ก็ยิ่งไปกระตุ้นในเรื่องนี้  นอกจากเจ้าชะตาจะมีบุตรหรือสามี เกิดในปีมะเส็ง จึงจะรักษา มูละ ไว้ได้


* ดาว ๑  ปุตตะ ไม่มีดาวปรากฏขึ้นในดวงกำเนิด  เจ้าชะตาไม่มีบุตร หรือมีบุตรยาก หรือมีบุตรก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่มีความผูกพันกัน
* ถึงแม้เจ้าชะตาจมีบุตร  ก็จะไม่มีบุตรที่เกิดใน ปีวอก-ชวด  ดูได้จาก คาถา ชาติ ดาว ๒   คาถา มาตา จะเป็นดาว ๖ ปีมะเส็ง ( ต้องศึกษาค้นคว้าหาสถิติเพื่มเติม)
* มาตา เป็นดาว ๖ ดังนั้นบุตรที่เกิดในปี มะเส็ง จะมีความผูกพันกับแม่เป็นพิเศษ
* ชะตานี้เจ้าชะตาไม่มีบุตร แต่เจ้าชะตามีลูกติดจากสามี ซึ่งเกิดในปีมะเส็ง

ดาว ๒  อริ-ชาติ-ทลิทโทฤกษ์  ชะตาจะมีปัญหา มีอุปสรรค เกี่ยวกับเรื่องรายได้ผลประโยชน์  และต้องระวังสุขภาพที่เกิดจากเรื่องอาหาร หรือเรื่องยา เช่นกินอาหารแล้วเป็นพิษ กินยาหมดอายุ  มีผลข้างเคียงของยา  ในดวงชาติ ดาว ๒ อยู่  ภูมิอำมาตย์ ธาตุน้ำ  ต้องระวังในเรื่องของ อาหาร ยา ที่เป็นของเหลว มีส่วนผสมของน้ำ หรือ การทำมาหากิน ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ใกล้น้ำ จะมีอุปสรรค
ดาว ๒ มนตรี-อริ- ชาติ-ทลิทโท-อำมาตย์ภูมิ  เจ้าชะตาจะ เกิดหนี้สิน เกิดปัญหาเพราะการช่วยเหลือผู้อื่น ประเภททำคุณใครไม่ขึ้น ปิดทองหลังพระ  หรือพึ่งพาอาศัยผู้อื่นไม่ค่อยได้เต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว เท่าที่หวังไว้(อธิษฐาน)

แต่ชะตานี้ วาสนา เป็น มหัทธโนฤกษ์  ชะตาชีวิตยังไม่ ถึงกับเลวร้ายมากนัก เพราะ มหัทธโนฤกษ์ ช่วยไว้  อีกทั้งยังมีดาวคู่สมบัติ ปรากฏในดวงคือ ๓-๗ หมายถึงการมีผู้ช่วยเหลือสนับสนุน

พรมพล

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ดวงเทวดา ถามมาตอบไป ตอน ยานัง(รถ)

ทักษายุค ภาคภูธร(ต่างจังหวัด) ว่าด้วยเรื่องทาย จากคำถาม โดยใช้ดวงเทวดาตอบ

วันที่ พยากรณ์ 9/9/2554  ตรงกับ ศุกร์ ขึ้นสิบสองค่ำ  เดือน สิบ ปีเถาะ
ช่วงที่ถาม 15.50

----------------------------------------------------------------------------------------------

เจ้าชะตา // ถามเรื่องออกรถหน่อยค่ะ
ผู้เขียน // ขอชื่อก่อนครับ

เจ้าชะตา // ........./นับอักษรได้ 9 ตัด 8 ได้ตนุนาม 1
ผู้เขียน // รถที่ใช้อยู่สีเหลือง คันเล็ก ๆๆ หรือเปล่าครับ (เดาจาก คาถายานังดวงเทวดา  มี 5 ยานัง-ทลิทโท) ปรกติดาว 5 ทักษายุคใช้สีแสด แต่ทั่ว ๆๆ ไป บางคนใช้เหลือง และ รถสีแสด คงจะหาคนใช้ยาก จึงคิดว่าสีเหลือง 

ดวงเทวดา 5 เดช-กัมมะ-พันธุ-ยานัง-ทาน-ทลิทโท (ชาติ-ภพ ภพ-ชาติ 5 ย้ำ 5)

เจ้าชะตา // ใช่คะรถเก๋งสีเหลือง คันไม่ใหญ่ ตั้งใจจะปล่อยคันนี้ แล้ว ซื้อใหม่คันใหญ่กว่าเดิม
ผู้เขียน // ดูแล้วสงสัยต้องปล่อยให้ญาติ ๆๆ ครับ รถคันนี้ ( พันธุ-ยานัง) แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้ใหญ่กว่าเดิมหรือเปล่าครับ (ยานัง ติด ทลิทโท ) ปรกติชอบใช้รถ ดัง ๆๆ สีเด่น ๆๆ หรือ คนนิยมเปล่าครับ (ยานัง-เดช)

เจ้าชะตา // ใช่ค่ะ ชอบใช้รถยี่ห้อดี ๆๆ คนนิยม คันนี้ก็ตั้งใจจะขายต่อให้น้องสาว แล้วช่วงนี้มีดวงออกรถไหมค่ะ
ผู้เขียน // ช่วงออกรถ น่าจะเป็นปีหน้า ราว ๆๆ เมษานะครับ (5 ยานัง  ตรงกับปีมะโรง ช่วงเดือน 5 ราว ๆๆ เมษา)

----------------------------------------------------------------------------------------------

เจ้าชะตา // ขอถามเรื่องงานอีกนิดค่ะ ว่ามีดวงจะออกจากงาน ย้ายงานไหม
ผู้เขียน // ดูจากชื่อ น่าจะเป็นการโยกย้ายไปอยู่ต่างถิ่นนะครับ ( 1 ตนุนาม มี อุตสาหะ-มรณะ จากดวงเทวดาทับ) หรือไม่ก็ มีการเดินทางไปอบรมความรู้เพิ่มเติมที่ต่างจังหวัด ( อุตสาหะ-วิชา-มรณะ)

ดวงเทวดา 1 อุตสาหะ-วิชา-มรณะ-ปิตา-วิริยะ-เทศาตรี (ชาติ-ภพ ภพ-ชาติ 1 ย้ำ 1)

เจ้าชะตา // งานที่ทำก็เดินทางไปต่างถิ่นประจำและมีการอบรมตลอดค่ะ (เจ้าชะตาบอกว่า ทำอาชีพขายประกัน) ถ้าย้ายไปจะดีไหมค่ะ
ผู้เขียน //  ดวงยังไม่ได้ชี้ว่าจะดีไม่ดีครับ แต่ถ้าย้ายไป ต้องมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง และคงไม่ง่ายนักครับ ( 1 ทุคตะ ดวงชาติ)  แต่ดวงการงานปัจจุบันก็รายได้ดีเป็นกอบเป็นกำอยู่แล้วนี่ครับ  ( ชื่อเจ้าชะตา พยางค์แรก  ม ดาว 5 บริวาร กัมมะนามจึงเป็น 6 มี ลาภะ-ชาติ-มหัทธโณ ดวงเทวดาทับอยู่)

6 กัมมะนาม  ดวงเทวดา 6 มูลละ-ลาภะ-ปุตตะ-ชาติ-ศีล-มหัทธโณ

เจ้าชะตาได้บอกว่า งานที่ทำตอนนี้รายได้ดีจริง แต่ตอนนี้ คิดจะไปเปิดสาขา ขายประกันโดยเปิดสำนักงานเอง ที่ตัวอำเภอหนึ่ง เพราะเบื่อ สาขาใหญ่ประจำจังหวัดที่มีปัญหาเยอะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------

ฟืนฟาง พยากรณ์ 
21/6/2555

ดวงเทวดากับตนุนาม ตอนถามถึงแฟน



ทักษายุค ภาคภูธร(ต่างจังหวัด) ว่าด้วยเรื่องทาย จากตนุนาม(ชื่อจริง) โดยใช้ดวงเทวดาตอบ

วันที่ พยากรณ์ 11/9/2554  ตรงกับ อาทิตย์ ขึ้น 14 ค่ำ  เดือน 10 ปีเถาะ
ช่วงที่ถาม 11.34

----------------------------------------------------------------------------------------------

ดวงเทวดา 1 อุตสาหะ-วิชา-มรณะ-ชาติ-ศีล-โจโร
ดวงเทวดา 7 อายุ-วิบัติ-อริ-รุกขา-วาสนา-ทลิทโท

ชาติ-ภพ(อดีต) 1 ซ้อน 7 ภพ-ชาติ(อนาคต) 1 ซ้อน 7

---------------------------------------------------------------------------------------------

เจ้าชะตา // สวัสดีค่ะ มาดูดวงค่ะ
ผู้เขียน // ขอชื่อด้วยครับ

เจ้าชะตา //........./นับอักษรได้ 9 ตัว ตัด 8 ได้ 1 เป็น ตนุนาม
ผู้เขียน // ดูจากชื่อ ช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยดีเปล่าครับ (มรณะ ดวงเทวดา ทับ ตนุนาม) ไม่กินยาประจำ (ชาติ) ก็อาจต้องเดินทางไปโรงพยาบาลบ่อย (อุตสาหะ-มรณะ) โดยเฉพาะเกี่ยวกับ ระบบเลือด หัวใจ (1 มรณะ)

เจ้าชะตา // ค่ะ สุขภาพไม่ดี เป็นหลายโรค ไขมันในเลือด เบาหวาน ต้องหาหมอกินยาประจำ และ เพิ่งไปผ่าตามา สายตามีปัญหาค่ะ
ผู้เขียน // วันนี้อยากถามเรื่องอะไรครับ

เจ้าชะตา // ถามเรื่องแฟน ค่ะ คบกับคนต่างชาติ เขาเคยมาหาทุกปีตอนสิ้นปี แต่หายไปสองปีแล้ว ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง
ผู้เขียน // แฟนคุณ ดูจาก ปัตนินาม (7) คิดว่ามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ( อายุ-อริ) มีปัญหาเกี่ยวกับ ขา การเดิน (7) หรือ รักษาตัวในโรงพยาบาล ( 7 ซ้อน 1 มรณะ )

เจ้าชะตา // เป็นไปได้ค่ะ เพราะ ก่อนหน้าจะหายไปเขาประสบอุบัติเหตุ รถจมน้ำ มีปัญหาเรื่องสมอง   อยากรู้จะมีโอกาสมาเจอกันอีกไหม หรือ ต้องเลิกกัน
ผู้เขียน // ดูจากตำแหน่งคู่แล้ว คงจะมีอุปสรรคครับที่จะได้เจอกัน(7 ปัตนินาม อริดวงเทวดาทับ) และคิดว่าคงต้องห่างเหินกันไปครับ (ภพ-ชาติ อนาคต 7 ซ้อน 1 มรณะ )
เจ้าชะตา // ทำใจแล้วค่ะ ถามอีกนิดการเงินเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
ผู้เขียน // การเงิน เงินเก่าที่มีคนให้ไว้ น่าจะมั่นคงพอ และ พอใช้นะครับ (2 กะดุมพะ-นาม มี มนตรี-ภพ-ภูมิปาโล จากดวงเทวดาทับอยู่)

ดวงเทวดา 2 มนตรี-อำนาจ-ตนุ-ภพ-เนกขัมมะ-ภูมิปาโล

เจ้าชะตา // ก็พอมีเก็บบ้าง แต่ต้องไว้ใช้เกี่ยวกับการรักษาตัวเป็นสวนใหญ่
ผู้เขียน // ครับยังไง ก็ ขอให้เจอทิศทางที่ดีในการดำเนินชีวิตครับ


 
ฟืนฟาง พยากรณ์
21/6/2555

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ดูการงานด้วยตนุนามผ่านดวงเทวดา

ดูการงานด้วยตนุนามผ่านดวงเทวดา 

(ดูดวง การงาน ทักษายุค)








ดูดวง ด้วยวิชาทักษายุค ตนุนามประกอบดวงเทวดา 

(เรื่อง กัมมะ-อริ)

ดวงนี้เจ้าชะตาเป็นหญิง แต่งชุด ข้าราชการสีกากี แจ้งความประสงค์ว่าจะมาขอให้ทำนายดวงชะตา 

ผู้เขียนได้ถามชื่อเจ้าชะตา  เจ้าชะตาได้แจ้งชื่อจริง นับอักขระ ได้ตนุนาม 6 เมื่อดูในดวงเทวดา 6 มี คาถา กัมมะ-อริ ทับอยู่ จึงได้บอกว่า  ช่วงนี้ มีปัญหาเรื่องงานอยู่ใช่ไหมครับ รู้สึกคู่กรณี จะเป็นหญิงสูงอายุ  ได้รับคำตอบว่า เจ้าชะตากำลังมีปัญหากับหัวหน้างานที่เป็นหญิง

เจ้าชะตาถามต่อว่าปัญหานี้ จะเกิดนานไหม เมื่อไรจะจบเสียที  ผู้เขียนบอกว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลานานกว่าจะหมดปัญหา (6 มีคาถาขันติ ) คงจะลากยาวไปถึง ราว ๆๆ พค ปีหน้า (ดวงภพ-ชาติ  6 ย้ำ 6) เจ้าชะตาถามว่า อยากย้ายหนีไปอยู่ทางภาคเหนือ ถ้าทำเรื่องจะสำเร็จไหม

ผู้เขียนตอบว่า ไปภาคเหนือ คงติดขัดไม่ได้ไปง่าย ๆๆ (6 อริ) อีกอย่างงานที่ทำ สถานที่ที่ทำงานปัจจุบัน ถือว่าเป็นที่ทำงานที่ควรลงหลักปักฐานสร้างความมั่นคง แม้จะมีปัญหาบ้าง(6 กัมมะ-ปาโล ทับตนุนาม และ เจ้าชะตา มี 6 เป็นกัมมะนามด้วย) ฤกษ์นี้ก็ยังเหมาะกับอาชีพข้าราชการ  ที่สำคัญ ตนุนาม กัมมะนาม ไม่มีคาถาที่เกี่ยวกับการโยกย้ายอย่าง อุตสาหะ จึงบอกให้เจ้าชะตาใช้ความอดทนปัญหาการงานไปก่อน ตามดวง(6 กัมมะ-อริ-ขันติ)

ฟืนฟางพยากรณ์ 
โดย : aviloot - วันที่ : 17/12/2554 21:02:36

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับชื่อ

เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับชื่อ...อาจารย์สอบตก

อาจารย์ยาจกซู เคยเปรียบเทียบชื่อเหมือนเสื้อผ้า ผมก็มีข้อคิดเห็นบางอย่างมาให้อ่านเล่นๆ เกี่ยวกับเรื่องของชื่อด้วยเช่นกัน

ถ้าเรามาลองคิดดู จะเห็นว่าคนไทยเราถูกคลุมถุงชนมาตั้งแต่เกิด กล่าวคือ เมื่อแรกเกิดบุพพการีได้ตั้งชื่อให้ ส่วนใหญ่จะตั้งชื่อเล่นให้ก่อน เปรียบเสมือนท่านได้หาเนื้อคู่มาให้เราตั้งแต่แรก โดยชื่อแรกซึ่งมักจะเป็นชื่อเล่นนั้น เสมือนกับเมียที่แต่งตามประเพณี โดยที่ผู้ใหญ่เป็นคนเลือกหามาให้ เป็นการเลือกที่เกิดจากจิตเจตนาอันบริสุทธิ์ ชื่อเล่นจึงเปรียบเหมือนแม่ศรีเรือนโดยแท้

ต่อมาบุพพการีได้พิจารณาแล้วว่า เมียคนนี้(ชื่อเล่น) ถึงแม้จะเป็นแม่ศรีเรือน แต่หน้าตาอาจจะขี้ริ้วขี้เหร่เกินกว่าที่จะพาออกงานได้ จึงจัดการหาภรรยาน้อยให้ ซึ่งอาจจะหาเองหรือให้พ่อสื่อ( พระ หมอดู หรือผู้มีความรู้ หรือผู้รู้บ้างไม่รู้บ้างแต่มาดดี )เป็นผู้หาให้ และนำไปจดทะเบียนแต่งงานเป็นภรรยาแต่งตามกฏหมายเพื่อที่จะได้นำไปออกงานได้ อย่างไม่เคอะเขิน กลายเป็นว่าคนไทยเรามีเมียสองคน เมียหลวงมักจะอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน(บางคนพออยู่นานๆ ก็ยกเมียหลวงขึ้นหิ้ง) และก็พาเมียน้อย(ชื่อจริง)ซึ่งจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมายออกงานอยู่เสมอ คนอื่นๆจึงมักจะเห็นหน้าเมียน้อยมากกว่าเมียหลวง ยกเว้นคนที่สนิทกันจึงจะได้พบเห็นเมียหลวงด้วย

เมื่อมีการออกงานบ่อยๆ มีบ้างบางครั้งที่คนอื่นทักถึงหน้าตาเมียน้อยว่า ทำไมหน้าตาไม่สวย (ชื่อจริงมีอักษรกาลกิณี) หรือบางครั้งมีปัญหาในเรื่องต่างๆเกิดขึ้นในชีวิต แล้วคนอื่นบอกว่าเมียน้อยเป็นคนคอยถ่วง (บางครั้งคนเหล่านี้ไม่ได้รู้ความจริงเลย แต่ชอบออกความเห็น ทั้งๆที่เป็นเรื่องระหว่างผัวเมีย แต่คนเหล่านี้ชอบทำตัวเป็นมือที่สาม)

ก็กลายเป็นว่าเมียน้อยมักจะเป็นแพะรับบาปอยู่เสมอ บางคนถึงกับอยากจะหย่าและหาเมียน้อยใหม่มาจดทะเบียน ทั้งๆที่ตอนเงินขาดมือ ก็เพราะไปกินไปเที่ยวด้วยกันกับเมียน้อย ตอนทะเลาะกับผู้อื่น เมียน้อยไม่ได้ไปช่วยทะเลาะกับเขาด้วยหรืออาจช่วยบ้างแต่ก็ไม่มาก แต่ก็ไปโทษเมียน้อยซะทุกอย่าง คงกะหาเรื่องเปลี่ยนใหม่ให้มันกระชุ่มกระชวยหัวใจบ้างเท่านั้น แถมยังหวังว่าเมียน้อยคนใหม่คงจะสวย รวย เริ่ดซะไม่มีเสียอีก บางคนเมื่อหย่ากะเมียน้อยแล้วไปมองหาเมียน้อยคนใหม่(เมียหลวงไม่กล้าเปลี่ยน เกรงใจผู้ใหญ่ที่หามาแต่งตามประเพณี คงเปลี่ยนได้แต่เมียน้อยเท่านั้น) ก็ใช่ว่าจะได้เมียดี อาจจะได้แค่เมียสวยเท่านั้น ไม่ได้ช่วยเหลือในหน้าที่ชีวิตการงานการเงินเลยก็มี สุดท้ายก็ต้องซมซานกลับมาหาเมียน้อยที่ผู้ใหญ่จับจดทะเบียนคนแรกอยู่ดี

สรุปจากข้อความข้างบนได้ มีข้อคิดมาหลายอย่างเช่น

การหาเมียน้อย(ชื่อจริง) นอกจากจะดูที่หน้าตา (ทักษาวันเกิดกับความหมายทางภาษาศาสตร์) ดูนิสัยใจคอ (จาตุรงคโชค) ดูพื้นฐานชาติตระกูลฐานะเดิม (เลขศาสตร์) แล้ว ยังต้องดูด้วยว่า เมียน้อยคนนั้นเหมาะสมกับเจ้าชะตาหรือไม่ บางที่ชื่อจริงดูแล้ว ทั้งสวย รวย นิสัยดี แต่ดันไม่เหมาะที่จะอยู่กับเราซะเนี่ย อย่างน้อยควรจะดูถึงดวงสมพงษ์ด้วยว่า อยู่กับเราแล้วจะดีหรือไม่ อยู่แล้วรุ่งเรืองหรือรุ่งริ่งกันแน่ด้วย จะได้ไม่ต้องมองหาสาวๆ มาจดทะเบียนใหม่อีก

บางครั้งบางช่วง เมียน้อยก็เกิดอาการน้ำหนักขึ้น อุ้ยอ้าย ไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าชะตาได้ ก็อย่าพึ่งไปทิ้งเค้าซะละ อยู่กันมาตั้งนาน ช่วยกันสร้างอนาคตมาถึงระดับนี้แล้ว แค่รูปร่างหน้าตาช่วงนั้นไม่สวย อ้วนอุ้ยอ้าย หรือแค่อาละวาดเพราะอยู่ในช่วงนั้นของเดือน ก็คิดจะหย่าซะแล้วหรือ ที่จริงอีกไม่นานเค้าก็จะกลับมานิสัยดีหรือสวยใหม่ได้อีก ไม่เชื่อก็ลองดู ทั้งนี้ต้องยกเว้นเมียน้อยที่นิสัยเสียมาตั้งแต่ต้น ถ้าอย่างนั้นการคิดจะหย่าแล้วหาใหม่ก็อยู่ในดุลพินิจที่สมควรอยู่บ้าง

ในช่วงเวลาที่เกิดปัญหา ที่เมียน้อยไม่สามารถช่วยได้ ทำไมไม่คิดถึงเมียหลวงที่ยกขึ้นหิ้งเอาไว้ ลองอัญเชิญจากหิ้งมาออกงานบ้างก็ดีนะ เพราะเมียหลวง (ชื่อเล่น) เป็นแม่พระ แม่ศรีเรือน ที่บุพพการีซึ่งเสมือนพรหมของลูกคัดสรรมาให้ ย่อมต้องมีอะไรดีๆที่ปกติไม่แสดงความสามารถออกมาให้เห็นเท่านั้นเอง ซึ่งโดยปกติผู้ชายมักจะหลงไหลเมียน้อย แต่ก็ให้ความเกรงใจกับเมียหลวง การที่ออกงานกับเมียหลวงจึงมักจะต้องวางท่านิดๆ มีสติหน่อยๆ ไม่วอกแวกจนเกินเหตุ ก็น่าจะดีนะถ้าช่วงที่มีปัญหาลองพาเมียหลวงออกงานบ้างก็ดี

การที่มองหาเมียน้อยคนใหม่มาจดทะเบียนแทนคนเดิมนั้น ปัญหาที่ตามมามีมากมาย เช่น การแบ่งทรัพย์สิน การแก้ไขเอกสารสัญญาต่างๆ ที่ได้ร่วมกันกระทำไว้ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าคนใหม่ที่จะจดทะเบียนจะดีหรือปล่าวอีกด้วย อาจจะได้แบบรูปสวยหน้าตาดี มีฐานะชาติตระกูลใช้ได้ แต่ไม่มีความสามารถ หรือเข้ากับตัวเองไม่ได้ก็เป็นได้

ทั้งนี้และทั้งนั้น เป็นการอุปมาขึ้นมาเฉยๆ ให้อ่านเล่นๆ โดยยกตัวอย่างเจ้าชะตาเป็นผู้ชาย ครั้นจะยกตัวอย่างเจ้าชะตาเป็นผู้หญิงแล้วพูดแบบมีทั้งผัวหลวงและผัวน้อย ก็ดูกระไรอยู่ เอาเป็นว่าอ่านกันสนุกๆ ก็แล้วกัน

เขียนเล่นโดยนายสอบตก

http://taksamahayuk.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แนวทางพิจารณาเรื่องคู่ โดยวิชาทักษายุค

แนวทางพิจารณาเรื่องคู่  โดยวิชาทักษายุค
โดย อาจารย์สมชาติ  กิจยรรยง

                ในระบบของทักษามหายุค  การพิจารณาเรื่องคู่ครอง, แฟน, สามีภรรยา  ให้ดูจากแผนภูมิที่ ๓ คือ ดูจากเดือนเกิด  โดยดูจากดาวในภพปัตนิ หรือ ดาวที่เกี่ยวพันกับดาวปัตนิ (เช่น ดาวคู่ธาตุ, คู่สมบัติ กับ ดาวปัตนิ)  ซึ่งก็คงไม่ต่างจากโหราศาสตร์ภาคสุริยคติที่ให้พิจารณาในภพที่ ๗ จากลัคนา  ถัดไปก็พิจารณาภพที่ ๙  และ ๑๑ สืบต่อมา  คือ  ภพปัตนิ ภพศุภะ และภพลาภะนั่นเอง  

เพื่อสืบทอดเจตนารมย์อันดีของผู้เขียนที่อยากจะพิทักษ์วิชาโหราศาสตร์ในระบบจันทรคติที่ใช้วัน เดือน ปี ดิถี มาใช้ในการพยากรณ์เหตุการณ์ความเป็นไปในอนาคตโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ศึกษาวิชาทักษามหายุครุ่นต่อมาในระยะหลัง  ข้อเขียนชุดนี้ทุกท่านมีสิทธิวิพากษ์ วิจารณ์ได้ในแง่วิชาการ และ ความถูกต้อง  ซึ่งผู้เขียนก็ยอมรับว่าสถิติและประสบการณ์ในวงการนี้นับว่ายังน้อยอยู่  ขอฝากแนวทางในการพยากรณ์ซึ่งจะถือว่าเป็นสูตรสำเร็จหรือถือเอาเป็นตำราสำหรับท่านยังไม่ได้จนกว่าท่านจะพิสูจน์ผลการพยากรณ์จากตัวท่านเอง
                ในการพยากรณ์เรื่อง  คนที่จะเป็นคนรักกัน  คู่รักกัน  เป็นแฟนกัน  หรือครองรักครองเรือนร่วมกันเราจะดูได้อย่างไร  หรือ จะพิจารณาอย่างไรนั้น  ขอให้หลักไว้คร่าวๆ ดังนี้
๑.      ดาววาสนา ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปตรงกับ ปีเกิด เดือนเกิด ของอีกฝ่ายหนึ่ง  หรือมีวาสนาเป็นดาวเดียวกัน เช่น ผู้ที่เกิดมามีดาว ๕ เป็นวาสนา  แต่งงานอยู่กันกับคน ปีมะโรง หรือ คนเกิดเดือนห้า เป็นต้น  ซึ่งก็มาจากหลักที่ว่าผู้ที่มีดาวใดเป็นวาสนา  มักตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ คนที่มีปีเกิด หรือเดือนเกิด  ตรงกับดาววาสนานั้น

๒.    พิจารณาจากดาวปัตนิของทั้ง ๒ ดวง  ว่าสอดคล้องกันหรือไม่  เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้นขอยกตัวอย่างเช่นคนเกิดเดือนอ้าย (๑) จะมีดาวเสาร์ (๗) คือ คนปีมะเมีย หรือคนเกิดเดือนเจ็ด เป็นดาวปัตนิหรือเป็นคู่และถ้าคนเดือนอ้ายมีดาวพฤหัส (๕) เกิดในดวงก็นับว่าสอดคล้องกับคนเกิดเดือนเจ็ด (๗)

๓.     พิจารณาจากดาวคู่ธาตุ คู่สมบัติ ที่เกี่ยวพันกับ ดาวปัตนิ  ขอยกตัวอย่าง เช่น คนเกิดเดือนอ้าย (๑) ถ้าไม่ใช่คนปีมะเมีย หรือ คนเกิดเดือนเจ็ด ซึ่งเป็นดาวเสาร์ (๗) เป็นคู่  ก็ให้ใช้ดาวคู่สมบัติ หรือคู่ธาตุของดาวเสาร์ (๗) แทนนั่นคือ ดาวอาทิตย์ (๑) กับดาวอังคาร (๓)  อันได้แก่ผู้ที่เกิดปี ชวด, วอก, ขาล, จอ หรือเดือนอ้าย  เดือนเก้า  เดือนสาม หรือ เดือนสิบเอ็ด เป็นปัตนิหรือคู่ แทนในการพิจารณา

๔.     มีดาวมนตรีซึ่งกันและกัน  หรือมีดาวเป็นคู่สมบัติกันและกัน เช่น คนปีฉลู, ระกา กับ คนปีมะเส็ง  /คนปีกุน, เถาะ กับคนปีมะแม  ข้อนี้เป็นส่วนปลีกย่อยในการพยากรณ์เท่านั้น  จะพึงยึดเป็นหลักตายตัวหาได้ไม่เพราะเป็นเพียงแต่ใช้ดาวปีเกิดมาพิจารณา  ขอให้ท่านผู้มีปัญญาจงพินิจพิเคราะห์ใช้ในโอกาสอันควร

๕.     ข้อนี้ใช้พิจารณาคู่ครองที่จะส่งเสริมชะตาให้กันและกัน  ได้แก่คู่ที่มีดาวเป็น คู่ธาตุ กันและกัน (คือเป็นบริวารและมูละกันและกัน)  ในส่วนของหลักนี้ยึดถือได้ทีเดียว  ขอยกตัวอย่างเช่น คนปีมะเมียกับชวด, วอก หรือคนวาสนาดาวอังคาร (๓) กับคนวาสนาราหู (๘)  หรือปีมะแม  ผู้เขียนเคยพบมาเป็นดังนี้  ผู้ชายเกิดปีขาล (๓) มีภรรยา เกิดปีเถาะ (๔) จะเห็นว่าคู่นี้ไม่ใช่ดาวคู่ธาตุกันแต่อย่างใด  บุตรคนแรกเกิดปีชวด  ให้หลังอีก ๗ ปี ก็มีบุตรคนที่สอง  เกิดปีมะเมีย  จะห็นว่าสามีภรรยาคู่นี้มีบุตรที่มีดาวอาทิตย์ (ชวด) กับดาวเสาร์ (มะเมีย) เป็นคู่ธาตุกันและกัน  ฐานะที่เคยตกต่ำจากที่ไม่มีสมบัติ บ้าน ที่ดิน  ก็มีบ้านและที่ดินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง  ให้หลังอีก ๓ ปีก็มีเงินซื้อหุ้นทำกิจการโรงน้ำแข็ง  สรุปว่าคู่นี้มีบุตรที่มีดาวเป็นคู่ธาตุกัน  ก็มีโอกาสรุ่งเรืองได้เหมือนกัน  อีกรายหนึ่งเป็นสตรีมาให้ผู้เขียนพยากรณ์ เกิดปีขาล  สามีเกิดปีจอ คือมีดาวดวงเดียวกัน  พอมีบุตรที่เกิดในปีมะแมเท่านั้น  ฐานะก็เริ่มดีขึ้นและเริ่มตั้งตัวได้

๖.     พิจารณาจากชื่อ ที่ใช้แทนตัวบุคคล  เคยสมมติชื่อนั้นเป็นดาว  โดยใช้หลักผสมอักษร เช่น ทูล ตรงกับดาวอังคาร (๓)  เมตตา ตรงกับดาวพฤหัส (๕)  โดยการพิจารณาว่าในแต่ละชื่อที่อยู่กินด้วยกันนั้นมีดาวเป็นคู่ธาตุหรือคู่สมบัติกันหรือไม่  หรือมีชื่อเป็นดาวดวงเดียวกันหรือไม่  เรื่องนี้ผู้เขียนขอยกตัวอย่างที่ได้รับมาเพิ่มเติมจากประสบการณ์ดังนี้คือ  ถ้าชื่อเป็นคู่ธาตุ  คู่สมบัติ กัน  อยู่ร่วมกันทำธุรกิจร่วมกัน  แม้ความเห็นจะไม่ตรงกันในบางเรื่อง  ก็มีหนทางรุ่งเรืองได้ เช่น ชื่อ นครกับวราภรณ์ (ดาว ๓ กับดาว ๗) สองท่านแต่ก่อนเป็นอาจารย์  ปัจจุบันเป็นกรรมการและรองกรรมการผู้จัดการบริษัท,  ชื่อ เสวกกับศุภนันท์ (ดาว ๔ กับดาว ๘)  คู่นี้ตอนนั้นเพิ่งแต่งงานได้ ๑ ปี ผู้เขียนยังรอผลอยู่แต่ในระยะปีนั้นซึ่งเป็นปีแรกผู้ชายได้โยกย้ายเข้าประจำการไม่ต้องเร่ร่อนเหมือนแต่ก่อน  ผู้หญิงได้รับความสบายขึ้นมากในเรื่องการทำธุรกิจ  ถ้าชื่อเป็นดาวดวงเดียวกัน เช่น ยงกิจกับนัชนี (ดาว ๕),  ประภาสกับจันจิรา (ดาว ๗),  วีระกับสุภาพ (ดาว ๕)  อยู่กินกันชะตาชีวิตก็มักดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่โลดโผน  ไม่ค่อยรุ่งเรือง  แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรมากมายก็มีแต่เพียงเรื่องระหองระแหงกันบ้างเป็นระยะเท่านั้น   อนึ่งการพิจารณาเรื่องชื่อนี้ควรดูวัน เดือน ปีเกิดเป็นหลักใหญ่บ้าง

๗.     ให้ดูดาวอายุจรเป็นหลัก หรือ ดาวจรเป็นหลัก  ข้อนี้สำคัญมากที่จะใช้เป็นครูหรือสูตรตายตัวได้เลย  เพราะใช้ทายเรื่องราวเกี่ยวกับปัจจุบัน หรือเหตุการณ์ที่มีความน่าจะเป็นในอนาคต  ซึ่งเมื่อเราใช้หลักจากข้อต้นๆ มาแล้วซึ่งนั่นเป็นพื้นฐานคร่าวๆ แต่การออกคำพยากรณ์นั้นจะใช้ข้อนี้ทำนายเป็นเกณฑ์  ในส่วนข้อนี้  ขอแยกอธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้
ก.     พิจารณาจากอายุจรเข้าภพปัตนิ  และมีดาวปัตนิเกิดในดวงเพศตรงข้าม  เช่น ในดวงชายที่เกิดในปีกุนเดือนเจ็ด  เมื่ออายุ ๒๔ ปี  อายุจะตกที่ดาวพฤหัส (๕) ซึ่งเป็นดาวปัตนิ  เกณฑ์นี้ก็หมายความว่า อายุ ๒๔ ปีนี้จะมีแฟนหรือมีคู่ หรือคนรัก  ส่วนคนรักจะเป็นใครนั้นก็ควรได้แก่คนที่มีดาวพฤหัส (๕) ในดวงชะตาเกิด คือ คนปีมะโรง หรือ คนเกิดเดือนห้า หรือคนวาสนาพฤหัส (๕)
ข.     พิจารณาจากดวงชายหรือหญิงที่ต่างฝ่ายต่างมีดาวอายุจรเข้าภพปัตนิทั้งคู่  ยกตัวอย่างเช่น คนเกิดปีกุนหรือเดือนเจ็ด  เมื่ออายุ ๒๔ ปี  อายุตกที่ดาวพฤหัส (๕) ปัตนิ เหมือนข้อ ก. แต่งงานกับคนปีชวด เดือนยี่ เมื่ออายุ ๒๓ ปี  ซึ่งอายุจะตกที่ดาวราหู (๘) ซึ่งเป็นดาวปัตนิเหมือนกัน
ค.     ในข้อ ก. และ ข. นั้นดูดาวอายุจรเข้าภพปัตนิเป็นหลัก  ส่วนในข้อนี้พิจารณาดาวจรโดยใช้ปีจร หรือเดือนจร  มาเป็นเกณฑ์พิจารณาผสมกันก็ได้  เช่น คนเกิดเดือน ๔  พอถึงปีฉลู หรือปีระกา  ซึ่งเป็นปีที่ดาวปัตนิเกิดขึ้นจรเข้ามา ๑ ปี  ก็จะมีโอกาสพบคนรักได้  ถ้าจะถามว่าควรจะเป็นเดือนไหนก็ตอบว่า ควรจะเป็นเดือนยี่, เดือนสิบ  หรือเดือนห้า กับเดือนหก ของปีฉลู, ระกา
ง.     ใช้หลักจากข้อ ก.,ข. และ ค. ผสมกัน  ซึ่งจากหลักข้อนี้  ถ้าดาวอายุจรสอดคล้องกันกับปีจรด้วยแล้ว  ก็สามารถออกคำพยากรณ์ได้อย่างมั่นใจและเต็มปากเต็มคำว่า จะต้องพบพานแน่หรือเจอแน่ๆ เช่น คนเดือนยี่ (๒) ปีเถาะ  ช่วงอายุ ๑๗-๒๔ ปี อายุตกภูมิราหู (๘) จะตรงกับดาวปัตนิ  ในช่วงอายุนี้ (๑๗-๒๔ ปี)  ถ้าปีใดตรงกับปีมะแมด้วยแล้วก็สามารถทายได้ชัดเจน  หรือจะทายว่าถ้าไม่อายุ ๑๗ ปี  ก็อายุ ๒๑-๒๒ ปี ก็ได้เพราะอายุ ๒๑ จะตกที่ดาวอังคาร (๓) อันเป็นคู่ธาตุกับดาวราหู (๘) และอายุ ๒๒ ปี ตกดาวพุธ (๔) ซึ่งเป็นคู่สมบัติดาวราหู (๘)
จ.     พิจารณาจากเรื่องอื่นๆ ซึ่งเป็นเงื่อนไขปลีกย่อยรองๆ ลงมา เช่น  ดาวอายุจรเข้าภพปุตตะในรายที่แต่งงานแล้วก็สามารถออกคำพยากรณ์ได้ว่า  จะมีบุตรหรือจะได้รับอุปการะเด็ก หรือจะมีเด็กรับใช้ (คนรับใช้) เข้ามาในครอบครัว  แต่ในรายที่ยังเป็นโสด ก็อาจจะทายได้เหมือนกันว่า มีโอกาสมีภรรยานั่นเองเพราะการมีบุตรก็ต้องอาศัยสตรีเพศนั่นเอง  หากเป็นหญิงโสด ก็ทายในลักษณะเดียวกันนี่เอง  บางรายดาวอายุจรเข้าภพมนตรีก็มีโอกาสแต่งงานหรือพบคู่ครองได้เพราะเหตุผลการแต่งงานครั้งนี้เพื่อต้องการที่พึ่ง  ที่ปรึกษานั่นเอง

จากแนวทางการพิจารณาเรื่องนี้  ผู้เขียนไม่สามารถยกตัวอย่างดวงชะตาได้ให้ละเอียดมากกว่านี้ เพราะถ้าหากเขียนแผนภูมิทักษาลงไป  เขียนดวงภพ  ดวงชาติ  ดวงเกิด  ลงไปซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้พยากรณ์ลึกซึ้งลงไปอีก ก็เกรงว่าบางท่านจะสับสน  และก็เปลืองเนื้อที่มากๆ  อย่างไรก็ตามหากมีโอกาสผู้เขียนจะพยายามค้นดวงชะตา  คู่ครอง  ตัวอย่างสัก ๓-๔ ดวงที่แต่งงานอย่างมีพิธีมาให้ดู  พร้อมคำวิจารณ์แง่อื่นๆ 

                อีกแง่มุมหนึ่งกฏธรรมชาติ  ที่เป็นเรื่องของธรรมะ  ที่มีฝ่ายดี-ฝ่ายชั่ว  มีเกิด-มีดับ  ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง  มีศรี  ก็มีกาลกิณี  มีการพบก็มีการจาก  มีสมหวังและไม่สมหวัง  ในคราวหน้าผู้เขียนจะให้แนวทางการพิจารณาอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตนั่นคือ  บุคคลที่อาภัพคู่  คำว่าอาภัพนี้หมายรวมถึง มีการพลัดพราก  หย่าร้าง  เลิกรา  ไม่มีคู่  บกพร่องเรื่องคู่ ฯลฯ  ทั้งนี้ก็สุดแต่บุญกุศลของแต่ละท่านที่ได้กระทำและสั่งสมไว้ในอดีตชาติ

                ข้อเขียนชุดนี้  ผู้เขียนจะไม่สามารถถอดคำพยากรณ์  ถอดคำบรรยายเป็นตัวหนังสือได้เลย   ถ้าหากผู้เขียนไม่ได้พบอาจารย์ผู้ประสาทวิชานี้แก่ผู้เขียน  ผู้เขียนขอกราบคารวะท่านอาจารย์สมสักก์  พิมพ์สุรินทร์ (ส. สัจจญาณ) อีกวาระหนึ่ง

อาจารย์สมชาติ กิจยรรยง

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทักษามหายุค ตอน ดาวปัตนิเสีย


ทักษามหายุค ตอน ดาวปัตนิเสีย

โดย อาจารย์สมชาติ กิจยรรยง



คำว่า เสีย ผู้เขียนขอให้ความหมายตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓ หน้า ๙๒๗ ซีกซ้ายนับจากล่างขึ้นมาบรรทัดที่ ๔ ซึ่งให้ความหมายว่า เลวลง เสื่อมคุณภาพ ใช้ไม่ได้ หมด สิ้น ละ ทิ้ง ขาด จ่าย หมดเปลือง พลาด แพ้ ตาย ชั่วไม่ดี เน่า 


ส่วนคำว่า ปัตนิ ให้ความหมายในหน้า ๕๙๒ ซีกซ้าย นับจากล่างขึ้นมาบรรทัดที่ ๔ ว่า หมายถึง หญิง แม่เรือน เมีย เนื้อคู่ 

เมื่อเราเอาคำว่า ปัตนิ รวมกับ เสีย ความหมายจะเป็นอะไรบ้างนั้น ผู้เขียนขอให้ท่านผู้อ่านจับแพะชนแกะเอาเองแล้วกัน สรุปเอาสั้นๆ ก็คงจะพอได้ความว่า คู่ของตนนั้นไม่มี หรือมีแล้วต้องเลิกราหย่าร้าง หรือมีแล้วหมด (เงิน, ตัว) ฯลฯ 

เมื่อมีผู้มาให้พยากรณ์แล้ว เราเห็นว่าเขาเหล่านั้นมีดาวปัตนิเสีย ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้ทรงคุณวุฒิทางการพยากรณ์บอกเขาว่า เป็นโสดดีกว่าแต่งงาน มากกว่าที่จะบอกว่า เป็นโสดทำไมอยู่ไปให้เศร้าเหงาทรวง หรือไม่ก็ชวนเข้าวัดเข้าวาไปเลยนับเป็นกุศลผลบุญดีแล มีแล้วไม่ดี มีทำไม ใช่ไหม หรือถ้าจะตอบว่า มีดีกว่า มีรสชาติดี ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ก็ตามใจ
 

จับวัน เดือน ปี ลงวาสนา หาดิถีกันแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า ปัตนิเสียนั้น ควรจะป็นอย่างไร ผู้เขียนอยากจะย้ำอีกว่าจากแนวทางที่จะให้ไว้นี้ไม่ใช่สูตรสำเร็จ ที่ท่านจะพึงยึดถือเป็นแม่แบบทางการพยากรณ์ จนกว่าท่านจะทดสอบด้วยตัวท่านเองจากประสบการณ์ เหมือนๆ กันกับผู้เขียนซึ่งก็กำลังดูสถิติอยู่ว่า

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้ที่มีปัตนิเสีย ควรเป็นดังนี้

๑. ดาวปัตนิถูก บีบ เหรือ เบียน คำว่า บีบ
, เบียน ผู้เขียนไม่ขอยกความหมายจากพจนานุกรมละ ความหมายก็คือ ถ้าถูกดาว ๒ ดวง (หน้าหลัง) ประกบจะเรียกว่า บีบ แต่ถ้าถูกบังข้างหน้าจะเรียกว่า เบียน เช่น คนเกิดปีกุน (ดาว ๔) เดือน ๗ (ดาว ๗) วันพฤหัส (ดาว ๕) ดาวปัตนิ คือ ดาว ๕ จะถูกดาววาสนาราหู (๘) ซึ่งมีสภาพเป็นดาวเงินและดาวตนุ (เดือนเกิด) เบียนและบีบ ถ้ามีคู่โดยเฉพาะคู่ที่มีดาว ๕ ก็มักจะมีปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ และสุขภาพของแฟนตามมา เพราะอะไรหรือ ขอให้ท่านหาคำตอบเอาเองซึ่งก็อยู่ในนี้แหละ

๒. ไม่มีดาวปัตนิเกิดขึ้นในดวงทั้ง ๒ คน หมายความว่า คือ ต่างฝ่ายต่างไม่ได้ทำบุญกันไว้เลยเมื่ออดีตชาติ แต่ก็มาเจอกันในชาตินี้ด้วยกรรมปัจจุบันเพราะตาต่อตามาประสาน ก็คงจะอยู่ด้วยกันไม่ตลอด หรืออยู่กันประเดี๋ยวประด๋าว หรืออยู่เหมือนไม่ได้อยู่ คือ ไปๆ มาๆ ยกเว้น แม้ไม่มีดาวปัตนิเกิดแต่มีสภาพเป็นดาวศรี หรือ เดช เช่น คนเกิดเดือนอ้าย/เก้า (ดาว ๑) ปีฉลู (ดาว ๒) วันอังคาร (ดาว ๓) ดาววาสนา คือ ศุกร์ (ดาว ๖) ในทักษามหายุค จะมีดาวเสาร์ (๗) ปัตนิเป็นศรี แม้ดาว ๗ ไม่ขึ้นก็มีสิทธิได้แฟนรวย แถมบางคนรวยแฟนเสียอีก เพราะคนวาสนาศรีส่วนใหญ่ บุคคลิกดี หรือมีเสน่ห์


๓. ดาวปัตนิเป็นกาลี สำหรับผู้ที่มีดาวปัตนิเป็นกาลีนี้มีหลายแบบ เช่น


ก. ไม่มีคู่ครองเลยนับแต่ผิดหวังครั้งแรกในชีวิต เช่น คนปีขาล เดือน ๔


ข. มีคู่นับไม่ถ้วน นับแต่พลาดหวังครั้งแรกแล้ว


ค. มีแฟนกับเขาเหมือนกัน แต่มักถูกติ หรืมักมีตำหนิ เช่น สูงไป แก่ไป ดำไป ฯลฯ


ง. เจ้าตัวอยากอยู่คนเดียวสบายใจดี จะทำอะไรก็มีอิสระ


๔. ดาววาสนาต้องปัตนิ ผู้ที่มีดาววาสนาต้องปัตนิ มักจะเป็นคนที่จะเลือกคบคน เพือนฝูง หรือจะรักใคร ชอบใคร มักไม่พิจารณาก่อน ยิ่งถ้าวาสนาไม่เป็นเดชจากปีเกิดแล้ว จะคบใครก็ย่อมได้ ถ้าเจอคนดีก็ดีไป ถ้าเจอไม่ดีก็แย่ไป แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีคู๋แต่วัยหนุ่มสาวเพิ่งเริ่ม เพราะคู่ไม่เลือก หรือไม่เลือกคู่ นั่นเอง


๕. ดาวเป็นมรณะกัน ความจริงแล้วข้อนี้ผู้เขียนยังหาจุดยืนที่แน่นอนไม่ได้ ขอฝากให้ท่านผู้อ่านที่มีความรู้ช่วยกันค้นต่อไป ส่วนใครจะคว้าอะไรได้นั้นก็สุดแท้แต่ แต่ในความเห็นที่พบมาแล้ว ผู้ที่มีดาวเป็นมรณะกัน เช่น คนเดือน ๓ มีคู่ปีระกา ควรจะแต่งงานช้า ยกเว้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำงานเกี่ยวกับงานรักษาคนป่วยไข้ เช่น คลีนิค โรงพยาบาล นายแพทย์ หมอ ไม่ห้ามถ้าจะอยู่กินด้วยกัน ทายได้เลยว่า ถ้ามีแฟนแล้วแฟนเป็นดาวมรณะของเรา ถ้าเป็นคนรูปร่างผอมจะอยู่กันได้นาน


๖. มีดาวมนตรีในดวงชะตา (วาสนา หรือ ตนุ เป็นมนตรี) น่าจะดี ผู้เขียนก็เห็นว่าดี เพราะจะเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาหารือเผื่อจะได้ฝากผีฝากไข้กันได้บ้าง ยามขัดสนหรือยามยากขึ้นมา คนที่มีวาสนาเป็นมนตรีนอกจากจะเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาได้แล้ว ยังเอาอกเอาใจเก่งอีกด้วย แต่ข้อเสียคือ มักจะไม่เอาใจแต่แฟนคนเดียว ยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปเอาใจคนนอกบ้านอีกด้วย คือมักเจ้าชู้นั่นเอง จึงมักทำให้รักมีปัญหาตามมา ถ้าลดๆ ได้นับว่าดีทีเดียว


๗. มีดาวใหญ่ (ปีเกิด วาสนา เดือนเกิด) เป็นอุตสาหะแก่กันและกัน ตามอาจารย์ท่านว่าค้าขายดี ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้น คือ มักจะมีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย เช่น อยู่ไกลกัน ต้องโยกย้าย เสียเวลาเดินทาง หรือที่อยู่อาศัยนั้นต้องอยู่ภายใต้กฏระเบียบ เช่น กรมทหาร หอพัก หรืออยู่กันมากๆ คน มากคนเข้าก็เลยกลายเป็นมากเรื่องไป ข้อนี้ถือว่าไม่รุนแรง เพียงแต่ทำให้อึดอัดใจเป็นบางระยะ ส่วนใหญ่จะเป็นระยะต้นๆ บางดวงก็ต้องไปอยู่กันต่างถิ่นหรือต่างแดนหลังแต่งงาน แต่บางคู่พอหลังแต่งงานแล้วก็พากันไปฮันนีมูนที่ต่างแดนแล้วก็กลับมาอยู่ ห้องแคบๆ ที่เดิม


๘. ดาวปัตนิ มีตำแหน่งเสียในดวงเกิด (ตามระบบจันทรคติ) คือ มีตำแหน่งเป็นประ หรือนิจ



อาจารย์สมชาติ กิจยรรยง


วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การตรวจสอบวันทำการอย่างง่าย

การตรวจสอบวันทำการอย่างง่าย...นายสอบตก
                      

ในการหาฤกษ์หายามเพื่อทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นขึ้นบ้านใหม่  แต่งงาน ฯลฯ  จำเป็นต้องดูทั้ง ดิถี-ฤกษ์-ยาม ให้ครบถ้วนกระบวนความ  ทั้งนี้ควรดูประกอบกับดวงชะตาของเจ้าของงานเป็นหลัก   

 มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่า    "ผมหาฤกษ์สุดยอดให้คุณแล้ว  แต่คุณไม่มีวาสนาเพียงพอที่จะใช้ฤกษ์วิเศษที่ผมหาให้ได้ " หรือ  ในกรณีที่ไม่ทราบดวงชะตาของเจ้าของงาน  โหรมักจะเลี่ยงไม่ให้ฤกษ์หรือให้ไปเปิดดูปฏิทินโหร  เพื่อหาฤกษ์สะดวกกันเอาเองเป็นต้น

ทั่วๆไป  เมื่อโหรหาฤกษ์ทำการให้กับเจ้าของงาน ตามหลักเกณฑ์ต่างๆ ในตำหรับตำราที่ร่ำเรียนมาแล้ว      มักพิจารณาเฉพาะ ดิถีที่เป็นศุภมงคลเพียงอย่างเดียว      โดยไม่แน่ใจว่า ใช่วันทำการที่เหมาะสมกับเจ้าของงานผู้นั้นหรือไม่  เพราะฤกษ์ที่หาได้นั้นไม่ได้คำนึงถึง อายุจรของเจ้าของงานเลย  แล้วแน่ใจหรือว่าเจ้าของงานนั้นจะมีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ที่หาให้




การตรวจสอบวันทำการหรือฤกษ์อย่างง่ายๆ ที่นำมาเสนอนี้  ใช้หลักการอ่านวัยจร จากยามที่มาขอฤกษ์
ของวิชาเลข ๗ ตัว หรือทักษา หรือใช้ร่วมกันทั้งสองแบบ   ในที่นี้จะใช้ร่วมกันทั้งสองแบบตามตาราง



 เริ่มจาก ให้นับวันที่มาขอฤกษ์มงคลหรือฤกษ์ทำการเป็นวันที่ ๑  เช่น มาขอฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน  สมมติว่าตรงกับข้างขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๘  เวลา ๑๐.๐๐ น.   ก็ให้นับวันที่ ๑ เริ่มต้นตั้งแต่ ข้างขึ้น ๒ ค่ำ เวลา ๑๐.๐๐ น. ถึง ข้างขึ้น ๓ ค่ำ เวลา ๙.๕๙ น.   แล้วพิจารณาดูว่า ฤกษ์ที่หาให้นั้นห่างจากวันที่มาขอฤกษ์กี่วัน  แล้วเทียบกับตารางข้างบนนี้  ซึ่งจะต้องไม่ตก
 อริ- มรณะ หินะ กาลกิณี

ตารางข้างบนนี้เป็นตารางสำหรับเดือนแรก  ถ้าจะดูว่า ฤกษ์ทำการที่หาได้ในเดือนต่อๆไป จะเหมาะสมหรือไม่ ก็ให้เริ่มนับเดือนที่ ๒ ที่ กดุมภะ-อายุ เป็นวันแรก  แล้วไล่วันไปเรื่อยๆ เหมือนเดือนแรก    ถ้าเป็นเดือนที่ ๓ ก็เริ่มที่ สหัชชะ-เดช เป็นวันแรก  ทำอย่างนี้เรื่อยไปจนถึงวันทำการที่หาไว้

จากข้างบนนี้  จะสังเกตเห็นว่า ถ้าหาฤกษ์ได้ภายในเดือนแรก ไม่ควรจะเป็นวันที่ ๖ , ๘ , ๑๖ , ๒๔ , ๒๗ , ๒๙ ของวันที่มาขอฤกษ์  หรือถ้าฤกษ์ที่หาได้เป็นเดือนหน้า ก็ไม่ควรเป็นวันที่ ๕ , ๗, ๑๕ , ๒๓, ๒๖, ๒๘  ของวันที่มาขอฤกษ์  ทั้งนี้และทั้งนั้นการนับวันจรจะใช้ดิถีและเดือนทางจันทรคติเท่านั้น

สำหรับปีไหนที่มีเดือน ๘ สองหน  ให้นับเดือน ๘ และเดือน ๘๘ เป็นเดือนเดียวแต่มีดิถีหรือวันขยายเป็น ๖๐ วัน

ด้วยวิธีนี้ถ้ามีคู่หนุ่มสาวมาขอฤกษ์แต่งงานในอีก ห้า-หกเดือนข้างหน้า  ก็ตรวจดูคร่าวๆ ได้เลยว่า ในช่วงเดือนที่หกและเดือนที่แปดนับจากวันที่มาขอฤกษ์  ไม่เหมาะสำหรับการแต่งงาน เพราะเดือนจรไปตกที่ อริ-อุตสาหะ กับ มรณะ-กาลกิณี  นั่นเอง

หรือตัวอย่างหนึ่งคือ มีผู้มาขอฤกษ์เปิดร้านกับผู้เขียน  ซึ่งเมื่อผู้เขียนคำนวณหาฤกษ์ได้เรียบร้อยแล้ว  ถ้าตรวจสอบวันทำการตามวิธีการนี้  จะพบว่า เดือนที่ทำการตก กดุมภะ-อายุ  วันที่ทำการเปิดร้านตก ปัตนิ-มนตรี  หรือ หนึ่งเดือนหกวันนับจากวันที่มาขอฤกษ์กับผู้เขียน

ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ศึกษาเรื่องฤกษ์ไม่มากก็น้อย   ...สวัสดี
สอบตก