วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อักษรกาลกิณีน่ากลัวอย่างที่คิด จริงหรือ

อักษรกาลกิณีน่ากลัวอย่างที่คิด จริงหรือ..อาจารย์สอบตก



“โหรไทยไม่กลัวกาลกิณี แต่กลัวดาวกาลกิณีมีกำลัง”

แต่ชาวบ้านที่ไม่ใช่โหรกลัวกาลกิณีไม่ว่าจะมีกำลังหรือไม่ เพราะโดนโหรขู่ให้กลัวนั่นเอง

ความหมายของกาลกิณีในทักษา ส่วนใหญ่หมายถึง ความล่าช้า ติดขัด มีอุปสรรคไม่ได้ดังใจ
เหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการแข่งขัน ความเลวทราม ถ้าในแง่เสียก็คงจะเป็นไปตามความหมายข้างต้น

แต่ถ้าเราพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส มองในแง่ที่ดีคือ การมีไหวพริบ กลโกง การเอาตัวรอด
การถ่วงเวลาเพื่อผลประโยชน์ในภายภาคหน้า

การกลัวสิ่งที่ไม่รู้ไม่ใช่สิ่งผิด แต่คงจะผิดบ้างถ้าเอาเรื่องที่เรากลัวแบบผิดๆ ไปป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ ถ้าคนอื่นไม่รู้ก็คงจะกลัวตาม  แต่ถ้าเจอผู้รู้ก็คงจะถูกหัวเราะเยาะเอาแน่ๆ อย่างน้อยก็คงจะเสียหน้าบ้างหรือไม่ก็หน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบแนะนำให้คนอื่นเปลี่ยนชื่อเพราะเห็นว่าชื่อมีอักษรกาลกิณีวันเกิดอยู่ด้วยนั้น

ผู้เขียนเคยถามมาหลายคนแล้วว่า ทราบไหมว่าทำไมพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หรือรัชกาลที่ ๑ ทรงตั้งพระนามของรัชกาลที่ ๒ ด้วยอักษรกาลกิณี? ปรากฏว่าคนเหล่านั้นไม่เห็นมีใครตอบได้สักคน บ้างก็อ้างว่าพระองค์ท่านเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ อ้างข้างๆ คูๆ ไปอย่างนั้น ครั้นถามซ้ำก็กลัวจะโดนตอบโต้ด้วยอย่างอื่นแทนเหตุผลตามหลักวิชา

ลองหันกลับมาดูที่มาของคำว่า กาลกิณี นี้ก่อน กาลกิณีเป็นภูมิหรือคาถาบทหนึ่งในทักษา ไม่ว่าจะใช้ทักษาวันเกิดหรือทักษาปีในการพยากรณ์หรือใช้ตั้งชื่อคน ทักษาที่จริงนับเป็นการพยากรณ์ในภาคโหราศาสตร์ฤกษ์ล่าง (แบบเดียวกับเลข ๗ ตัว หรือ เลข ๑๒ ตัว) ไม่ได้เป็นวิชาโหราศาสตร์ภาคฤกษ์บนเหมือนดวงจักรราศีแบบลัคนาเดียวหรือสิบลัคน์ เพราะอาศัยเวลาในรูปแบบของวันหรือปี หาได้เกิดจากการคำนวณตำแหน่งดวงดาวในจักรราศีไม่ ดังนั้นจึงต้องอ้างอิงหลักวิชาสายฤกษ์ล่าง

ในการอธิบายเรื่องกาลกิณีในทักษา ในสายวิชาฤกษ์ล่างนั้น
วัน     จะบ่งบอกถึงความคิด อารมณ์ ความต้องการพื้นฐาน ประสบการณ์ในอดีต
เดือน จะบ่งบอกถึงความเป็นตัวตน สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ปัจจัยใกล้ตัว
ปี      จะบ่งบอกถึง สิ่งแวดล้อมภายนอกที่ไกลตัวออกไป (ทั้งที่มองไม่เห็นหรือบางครั้งคาดไม่ถึง) ปัจจัยภายนอก

ดังนั้น กาลกิณีของทักษาวัน จึงเน้นไปถึงเรื่องอุปสรรค ความติดขัดในแง่ของอารมณ์ความคิดเสียมากกว่า  และไม่ใช่ว่าจะหมายถึงอุปสรรคในทุกๆ เรื่อง อาจจะเป็นอุปสรรคในบางเรื่องเท่านั้นเอง ขึ้นอยู่กับว่าเป็นดาวอะไรที่เป็นดาวกาลกิณี  ทั้งนี้ในเรื่องรายละเอียดของปัญหาสามารถอ่านได้จากความหมายของดาวนั้นๆ

กรณีดาวกาลกิณีไม่มีกำลัง เมื่ออ่านจากดวงจักรราศี นั่นคือ อุปสรรคที่เราไม่ได้ให้ความใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นไม่มาก

แต่ถ้าดาวกาลกิณีมีกำลัง ก็หมายถึงว่า เราให้ความสำคัญหรือใส่ใจกับเรื่องอุปสรรคปัญหานั้นๆ
ยิ่งเราใส่ใจกับปัญหานั้นมากเท่าไหร่ แน่นอนย่อมมีผลกระทบต่อตัวเรามากขึ้นเป็นเงาตามตัว


รูปแบบของกาลกิณีในเรื่องต่างๆ ของทักษาวันเกิด จะมีอยู่ ๓ แบบหลักๆ คือ

๑. เรื่องของธนัง ทรัพย์สิน ได้แก่ทรัพย์เคลื่อนที่ทั้งหลาย เช่น แก้ว แหวน เงิน ทอง มรดก เงินติดกระเป๋า
มักจะเกิดกับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี และวันศุกร์

๒. เรื่องของโภคา (เคหัง) ทรัพย์สมบัติ ได้แก่ทรัพย์คงที่ทั้งหลาย เช่น ที่ดิน ไร่ สวน นา เหมือง เครื่องมือต่างๆ บ้านเรือน เคหะสถานที่อยู่อาศัย สำนักงาน มักจะเกิดกับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ วันเสาร์ และวันราหู

๓. เรื่องของนาวัง (มัชฌิมา) ได้แก่ การเดินทาง เรือ แพ ยวดยานพาหนะ ความเป็นกลาง การปันส่วนแบ่งการแชร์ผลประโยชน์ด้วยกัน ความไม่มั่นใจ สองจิตสองใจ มักจะเกิดกับผู้ที่เกิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันพุธ

ในเมื่อเรารู้ถึงผลกระทบของความหมายของกาลกิณี สำหรับผู้ที่เกิดในวันต่างๆ แล้ว ก็คงจะสบายใจได้ในระดับหนึ่งว่า  อักษรกาลกิณีไม่ได้มีผลกระทบไปเสียทุกเรื่อง เรื่องที่มีปัญหาถ้าเรารู้จักวิธีการแก้ไขก็จะพลิกโอกาสให้เราดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน

ที่จริงแล้ว   การที่ชื่อมีอักษรกาลกิณีสักหนึ่งหรือสองตัว และไม่ได้อยู่เป็นอักษรนำ     ไม่ว่าจะเป็น 
อาทิอักษร หรือ อันตอักษร หรือตัวสะกดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กลับเห็นว่าดีเสียอีกด้วยซ้า

เพราะเหตุว่าเมื่อเปรียบเทียบชื่อเป็นตัวบ้าน อักษรกาลกิณีเปรียบเหมือนห้องสุขา เมื่อเวลาเจ้าของชื่อมีปัญหา ก็ยังมีที่ระบายได้ (ยังพอมองหาทางออกในชีวิตได้)

ส่วนผู้ที่มีชื่อเลิศหรูไม่มีอักษรกาลกิณีสักตัว เปรียบเหมือนบ้านไม่มีห้องสุขา เมื่อเวลามีปัญหาในชีวิตก็ไม่สามารถหาทางออกด้วยตัวเองได้ มักจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นข้างนอก บุคคลจำพวกนี้ไม่ใช่ผู้ที่เก่งกล้าสามารถด้วยตัวเอง จำเป็นต้องอาศัยผู้อื่นเป็นหลัก ถ้าขาดที่พึ่งก็เหมือนขาดใจตาย ซึ่งบางทีก็ขาดใจตายจริงๆ เพราะหาทางออกไม่ได้ ฆ่าตัวตายไปก็เยอะแล้ว

สำหรับเด็กที่เกิดวันจันทร์ ตามตำราทั่วไปนั้น ชื่อ ควรเว้นสระทั้งหมด ซึ่งจะหาชื่อได้ยากมากโดยเฉพาะชื่อที่ต้องการจำนวนอักษรทั้งหมดในชื่อตามดาวที่ให้คุณกับเด็กแล้วแทบจะไม่มี ถึงจะหาได้ บางชื่อก็ไม่ได้ให้คุณเมื่อเปรียบเทียบกับคำพยากรณ์ แต่อย่าพึ่งกังวลใจไปเลยครับ เราอาจจะเลือกชื่อที่มีสระเพียงตัวเดียวและไม่ได้เป็นอักษรตัวแรกของชื่อก็ได้

ท่านอาจจะเห็นด้วยกับผู้เขียนก็ได้ว่า ชื่อเปรียบเสมือนบ้านของเจ้าชะตา ตัวกาลกิณีไม่ว่าจะเป็นสระหรือพยัญชนะก็เปรียบเหมือนส้วม(ห้องสุขา) บ้านที่มีส้วมก็จะมีที่ระบายทุกข์ให้กับเจ้าชะตา แต่อย่ามีมากหลายๆห้องไม่ดีครับ มันลำบากในการทำความสะอาด หรือมีส้วมอยู่หน้าบ้านก็ไม่ดี คนจีนเขาถือ แต่สระที่ควรเว้นสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์ก็คือ สระอุ สระอา สระอำ และไม้เอก ส่วนสระตัวอื่นอนุโลมพอใช้ได้

เป็นเรื่องน่าแปลกอีกอย่างคือ ชื่อที่มีอักษรที่ดึงมาจากชื่อของคุณพ่อคุณแม่ มักจะเป็นตัวปรับสภาพอักษรกาลกิณีในชื่อให้ดีขึ้นด้วย(ไม่รู้ว่าฟลุ๊คหรือเปล่า?)

แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เจ้าชะตากะล่อนเอาตัวรอดได้มากขึ้น และผูกพันกับครอบครัวมากขึ้น เรียกว่าเมื่อถึงคราวจะแย่ก็ไม่ถึงกับถีบญาติพี่น้องเพื่อเอาตัวรอดคนเดียว บางตำราจึงมักนิยมที่จะตั้งชื่อเด็กโดยดูจากชื่อของพ่อและแม่เด็กประกอบด้วย..

สอบตก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น