การตรวจสอบวันทำการอย่างง่าย...นายสอบตก
ในการหาฤกษ์หายามเพื่อทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ฯลฯ จำเป็นต้องดูทั้ง ดิถี-ฤกษ์-ยาม ให้ครบถ้วนกระบวนความ ทั้งนี้ควรดูประกอบกับดวงชะตาของเจ้าของงานเป็นหลัก
มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่า "ผมหาฤกษ์สุดยอดให้คุณแล้ว แต่คุณไม่มีวาสนาเพียงพอที่จะใช้ฤกษ์วิเศษที่ผมหาให้ได้ " หรือ ในกรณีที่ไม่ทราบดวงชะตาของเจ้าของงาน โหรมักจะเลี่ยงไม่ให้ฤกษ์หรือให้ไปเปิดดูปฏิทินโหร เพื่อหาฤกษ์สะดวกกันเอาเองเป็นต้น
ทั่วๆไป เมื่อโหรหาฤกษ์ทำการให้กับเจ้าของงาน ตามหลักเกณฑ์ต่างๆ
ในตำหรับตำราที่ร่ำเรียนมาแล้ว
มักพิจารณาเฉพาะ ดิถีที่เป็นศุภมงคลเพียงอย่างเดียว โดยไม่แน่ใจว่า ใช่วันทำการที่เหมาะสมกับเจ้าของงานผู้นั้นหรือไม่ เพราะฤกษ์ที่หาได้นั้นไม่ได้คำนึงถึง อายุจรของเจ้าของงานเลย แล้วแน่ใจหรือว่าเจ้าของงานนั้นจะมีโอกาสได้ใช้ฤกษ์ที่หาให้
การตรวจสอบวันทำการหรือฤกษ์อย่างง่ายๆ
ที่นำมาเสนอนี้ ใช้หลักการอ่านวัยจร จากยามที่มาขอฤกษ์
ของวิชาเลข
๗ ตัว หรือทักษา หรือใช้ร่วมกันทั้งสองแบบ
ในที่นี้จะใช้ร่วมกันทั้งสองแบบตามตาราง
เริ่มจาก ให้นับวันที่มาขอฤกษ์มงคลหรือฤกษ์ทำการเป็นวันที่ ๑ เช่น มาขอฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน สมมติว่าตรงกับข้างขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. ก็ให้นับวันที่ ๑ เริ่มต้นตั้งแต่ ข้างขึ้น ๒ ค่ำ เวลา ๑๐.๐๐ น. ถึง ข้างขึ้น ๓ ค่ำ เวลา ๙.๕๙ น. แล้วพิจารณาดูว่า ฤกษ์ที่หาให้นั้นห่างจากวันที่มาขอฤกษ์กี่วัน แล้วเทียบกับตารางข้างบนนี้ ซึ่งจะต้องไม่ตก
อริ- มรณะ –หินะ –กาลกิณี
ตารางข้างบนนี้เป็นตารางสำหรับเดือนแรก ถ้าจะดูว่า ฤกษ์ทำการที่หาได้ในเดือนต่อๆไป จะเหมาะสมหรือไม่ ก็ให้เริ่มนับเดือนที่
๒ ที่ กดุมภะ-อายุ เป็นวันแรก
แล้วไล่วันไปเรื่อยๆ เหมือนเดือนแรก
ถ้าเป็นเดือนที่ ๓ ก็เริ่มที่ สหัชชะ-เดช เป็นวันแรก ทำอย่างนี้เรื่อยไปจนถึงวันทำการที่หาไว้
จากข้างบนนี้ จะสังเกตเห็นว่า ถ้าหาฤกษ์ได้ภายในเดือนแรก ไม่ควรจะเป็นวันที่ ๖ , ๘ , ๑๖ , ๒๔ , ๒๗ , ๒๙ ของวันที่มาขอฤกษ์ หรือถ้าฤกษ์ที่หาได้เป็นเดือนหน้า ก็ไม่ควรเป็นวันที่ ๕ , ๗, ๑๕ , ๒๓, ๒๖, ๒๘ ของวันที่มาขอฤกษ์ ทั้งนี้และทั้งนั้นการนับวันจรจะใช้ดิถีและเดือนทางจันทรคติเท่านั้น
สำหรับปีไหนที่มีเดือน ๘ สองหน ให้นับเดือน ๘ และเดือน ๘๘ เป็นเดือนเดียวแต่มีดิถีหรือวันขยายเป็น
๖๐ วัน
ด้วยวิธีนี้ถ้ามีคู่หนุ่มสาวมาขอฤกษ์แต่งงานในอีก ห้า-หกเดือนข้างหน้า ก็ตรวจดูคร่าวๆ
ได้เลยว่า ในช่วงเดือนที่หกและเดือนที่แปดนับจากวันที่มาขอฤกษ์
ไม่เหมาะสำหรับการแต่งงาน เพราะเดือนจรไปตกที่ อริ-อุตสาหะ กับ
มรณะ-กาลกิณี นั่นเอง
หรือตัวอย่างหนึ่งคือ
มีผู้มาขอฤกษ์เปิดร้านกับผู้เขียน
ซึ่งเมื่อผู้เขียนคำนวณหาฤกษ์ได้เรียบร้อยแล้ว ถ้าตรวจสอบวันทำการตามวิธีการนี้ จะพบว่า เดือนที่ทำการตก กดุมภะ-อายุ วันที่ทำการเปิดร้านตก ปัตนิ-มนตรี
หรือ หนึ่งเดือนหกวันนับจากวันที่มาขอฤกษ์กับผู้เขียน
ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ศึกษาเรื่องฤกษ์ไม่มากก็น้อย ...สวัสดี
สอบตก
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น