แนะนำวิชา

                                    ทักษามหายุค


ทักษามหายุค...อาจารย์สอบตก

ที่ เขียนขึ้นมานี้ เพราะอยากจะบอกให้ทราบถึงวิชาโหราศาสตร์ไทยสายหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จักกันนักเมื่อเทียบกับวิชาโหราศาสตร์ไทยสายต่างๆ ในปัจจุบัน แค่เป็นการบอกเล่าให้ทราบพอเป็นสังเขป

สำหรับท่านใดที่สนใจวิชานี้ก็ลองไปศึกษาหรือเรียนได้ตามสมาคมโหรฯ ที่เปิดสอนนะครับ มาว่ากันถึงประวัติที่มาของวิชานี้กันก่อน

                                                 ประวัติ


ทักษายุค หรือเรียกเต็มยศว่า ตำราทักษามหายุคศาสตร์ เป็นตำราไทยโบราณฝ่ายจันทรคตินิยม
หมายถึงว่า ใช้ ปี เดือน วัน(วาร) ดิถีทางจันทรคติแบบไทยๆ เป็นหลักในการพยากรณ์

หรือวิชาสายฤกษ์ล่าง แบบเดียวกับวิชาเลข ๗ ตัว เลข ๑๒ ตัว

บางท่านอาจเรียกว่า ทักษานักษัตร์ก็มี เพราะใช้ปีนักษัตร์เป็นเกณฑ์ในการกำหนดนับอายุ และอายุที่นับกำหนดเป็นยุคๆไป จึงเรียกว่า ทักษายุค

คำว่า ยุค นั้น หมายเอาอายุเป็นช่วงๆ สั้นบ้างยาวบ้าง อย่างช่วงอายุยาวๆ เช่นพยากรณ์ดวงชะตาเมือง ประเทศ โลก หรืออายุพุทธศาสนา ท่านเรียกว่า ทักษามหายุค

ส่วนช่วงสั้นๆ เช่นพยากรณ์ชะตาบุคคล ชะตาฤกษ์ เรียกว่า ทักษาจุลยุค

สมัย ก่อนวิชาทักษายุค นี้เป็นวิชาที่ถ่ายทอดกันมาแต่โบราณแบบมุขปาฐะ (หรือสอนแบบปากต่อปาก) ไม่มีตำราเขียนสืบทอดมา จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสำหรับบุคคลทั่วไป เฉกเช่น วิชาพยากรณ์อื่นๆ

เมื่อ ย้อนกลับไปหาต้นตอของวิชานี้ สืบได้เพียงแค่ ม.จ. พรหมมาศ พรหมเมศ (ล. สายวารี) ได้ศึกษาวิชานี้ สมัยบวชเป็นสามเณรที่จังหวัดชลบุรี

และต่อมาได้ถ่ายทอดให้กับศิษย์สองท่าน ท่านหนึ่งคือ อาจารย์ ส.สัจจญาณ (สมศักดิ์ พิมสุรินทร์)

ซึ่ง ท่านได้เริ่มนำวิชานี้มาถ่ายทอด ให้กับลูกศิษย์ลูกหาทั่วไปที่วัดเอี่ยมวรนุช บางขุนพรหม แล้วย้ายมาสอนที่สมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ วัดราชนัดดา จวบจนสิ้นอายุขัย

จึงถือได้ว่า อาจารย์ ส.สัจจญาณ เปรียบเสมือนบรมครูวิชาทักษายุค ที่สอนกันอยู่ในปัจจุบัน

วิชา ทักษายุคนี้เป็นวิชาที่ พยากรณ์ง่ายและแม่นยำดีมาก โดยไม่ต้องท่องจำแต่อย่างไร ผู้ที่เรียนวิชานี้มักจะพยากรณ์เหมือนกันหมดเพราะเป็นดาวเจาะจงตรงไปตรงมา ดิ้นไม่ได้

มีคาถาหรือเรือนกำกับดาวแต่ละดวงอยู่ ๖ เรือน หรือ ๔๘ คาถา (ของเลข ๗ ตัวมีอยู่ ๓๕ เรือน)
ทำให้ขยายความหมายของดาวแต่ละดวงได้ละเอียด

การศึกษาวิชานี้ต้องอาศัยความตั้งใจศึกษาติดต่อกัน อาศัยระยะเวลานานสักหน่อยใจร้อนไม่ได้
จึงจะได้ผลเป็นดี เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น

อันดับแรกในการศึกษาวิชานี้ให้คล่องและเก่งคือ ทักษา ๓ ดวง คือ
๑. ดวงภพ หมายถึง ดวงอดีตชาติ มีมาก่อนเกิด
๒. ดวงชาติ หมายถึง เหตุการณ์ปัจจุบันเกิดขึ้นมาแล้ว
๓. ดวงทักษา หมายถึง การพยากรณ์ เหตุที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และในอนาคต

เพียงอาศัยการศึกษา ๓ ดวงนี้ให้คล่องและเก่ง ก็สามารถใช้พยากรณ์ได้เป็นอย่างดี สามารถนำไปใช้ได้แล้ว
แต่ ถ้าอยากจะศึกษาเพิ่มเติมต่อจากนั้นจึงค่อยศึกษาดวงอันดับต่อไป ซึ่งเป็นดวงสุดยอดในการพยากรณ์ ที่ลึกในรายละเอียดเพิ่มเติม คือ ดวงทักษายุค ๑๒ ราศี

                                       เนื้อหาวิชาทักษายุค


เนื้อหาวิชาที่สอนๆ กันอยู่ในปัจจุบันจะครอบคลุมเฉพาะ


๑ การอ่านพื้นดวงเดิม
๒ การอ่านดวงจร
๓ การจับยาม
ในระดับนี้ท่านสามารถไปเป็นนักพยากรณ์ได้ไม่น้อยหน้าผู้ที่ศึกษาวิชาโหราศาสตร์สายอื่นๆ

แต่ถ้าต้องการศึกษาต่อเพิ่มเติมจะต้องศึกษากับผู้สอนอย่างใกล้ชิดในเรื่องต่อจากนี้ไปคือ
๔ การอ่านดวงเมือง (ทักษามหายุค)
๕ การหาฤกษ์
๖ การอ่านชะตาจากชื่อและการตั้งชื่อ (ทั้งการตั้งชื่อเด็กและการผลัดนาม)
๗ การปรับเสริมดวง
   ๗.๑ การปรับเสริมดวงด้วยทศบารมีธรรม
   ๗.๒ การปรับดวงเสริมด้วยชัยภูมิ ชื่อ สิ่งของต่างๆ
๘ ดวงทักษายุค ๑๒ ราศี
(ปกติผู้เขียนใช้ดูสิ่งปกติภายในอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ดูดวงชะตาฝาแฝด หรือดูดวงบ้านและปรับชัยภูมิเสริมดวง)
๙ การประยุกต์ใช้ทักษายุค
   ๙.๑ การอ่านชัยภูมิ
   ๙.๒ การอ่านดวงจักรราศีประกอบทักษายุค
(เป็นการเสริมการอ่านดวงจักรราศี ให้ได้รายละเอียดมากขึ้นจากการอ่านดวงปกติ)

เนื้อหาข้างต้นทั้งหมดนี้ ถ้าศึกษาได้หมดท่านสามารถเป็นนักพยากรณ์อาชีพได้อย่างไม่อายผู้ใช้ศาสตร์อย่างอื่น

วิชา สายอื่นมีลูกเล่นหรือพยากรณ์ได้ละเอียดอย่างไร วิชานี้ก็ไม่แตกต่างกันแม้แต่การพยากรณ์ชะตาฝาแฝดหรือชะตาสหชาติที่เกิดห่าง กันแค่ไม่กี่วินาทีก็สามารถแยกแยะออกได้เช่นกัน

จึงเรียนมาเพื่อทราบ..นะจ๊ะ..นะจ๊ะ

สอบตก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น