วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทักษามหายุค ตอน ดาวปัตนิเสีย


ทักษามหายุค ตอน ดาวปัตนิเสีย

โดย อาจารย์สมชาติ กิจยรรยง



คำว่า เสีย ผู้เขียนขอให้ความหมายตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓ หน้า ๙๒๗ ซีกซ้ายนับจากล่างขึ้นมาบรรทัดที่ ๔ ซึ่งให้ความหมายว่า เลวลง เสื่อมคุณภาพ ใช้ไม่ได้ หมด สิ้น ละ ทิ้ง ขาด จ่าย หมดเปลือง พลาด แพ้ ตาย ชั่วไม่ดี เน่า 


ส่วนคำว่า ปัตนิ ให้ความหมายในหน้า ๕๙๒ ซีกซ้าย นับจากล่างขึ้นมาบรรทัดที่ ๔ ว่า หมายถึง หญิง แม่เรือน เมีย เนื้อคู่ 

เมื่อเราเอาคำว่า ปัตนิ รวมกับ เสีย ความหมายจะเป็นอะไรบ้างนั้น ผู้เขียนขอให้ท่านผู้อ่านจับแพะชนแกะเอาเองแล้วกัน สรุปเอาสั้นๆ ก็คงจะพอได้ความว่า คู่ของตนนั้นไม่มี หรือมีแล้วต้องเลิกราหย่าร้าง หรือมีแล้วหมด (เงิน, ตัว) ฯลฯ 

เมื่อมีผู้มาให้พยากรณ์แล้ว เราเห็นว่าเขาเหล่านั้นมีดาวปัตนิเสีย ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้ทรงคุณวุฒิทางการพยากรณ์บอกเขาว่า เป็นโสดดีกว่าแต่งงาน มากกว่าที่จะบอกว่า เป็นโสดทำไมอยู่ไปให้เศร้าเหงาทรวง หรือไม่ก็ชวนเข้าวัดเข้าวาไปเลยนับเป็นกุศลผลบุญดีแล มีแล้วไม่ดี มีทำไม ใช่ไหม หรือถ้าจะตอบว่า มีดีกว่า มีรสชาติดี ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ก็ตามใจ
 

จับวัน เดือน ปี ลงวาสนา หาดิถีกันแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า ปัตนิเสียนั้น ควรจะป็นอย่างไร ผู้เขียนอยากจะย้ำอีกว่าจากแนวทางที่จะให้ไว้นี้ไม่ใช่สูตรสำเร็จ ที่ท่านจะพึงยึดถือเป็นแม่แบบทางการพยากรณ์ จนกว่าท่านจะทดสอบด้วยตัวท่านเองจากประสบการณ์ เหมือนๆ กันกับผู้เขียนซึ่งก็กำลังดูสถิติอยู่ว่า

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้ที่มีปัตนิเสีย ควรเป็นดังนี้

๑. ดาวปัตนิถูก บีบ เหรือ เบียน คำว่า บีบ
, เบียน ผู้เขียนไม่ขอยกความหมายจากพจนานุกรมละ ความหมายก็คือ ถ้าถูกดาว ๒ ดวง (หน้าหลัง) ประกบจะเรียกว่า บีบ แต่ถ้าถูกบังข้างหน้าจะเรียกว่า เบียน เช่น คนเกิดปีกุน (ดาว ๔) เดือน ๗ (ดาว ๗) วันพฤหัส (ดาว ๕) ดาวปัตนิ คือ ดาว ๕ จะถูกดาววาสนาราหู (๘) ซึ่งมีสภาพเป็นดาวเงินและดาวตนุ (เดือนเกิด) เบียนและบีบ ถ้ามีคู่โดยเฉพาะคู่ที่มีดาว ๕ ก็มักจะมีปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ และสุขภาพของแฟนตามมา เพราะอะไรหรือ ขอให้ท่านหาคำตอบเอาเองซึ่งก็อยู่ในนี้แหละ

๒. ไม่มีดาวปัตนิเกิดขึ้นในดวงทั้ง ๒ คน หมายความว่า คือ ต่างฝ่ายต่างไม่ได้ทำบุญกันไว้เลยเมื่ออดีตชาติ แต่ก็มาเจอกันในชาตินี้ด้วยกรรมปัจจุบันเพราะตาต่อตามาประสาน ก็คงจะอยู่ด้วยกันไม่ตลอด หรืออยู่กันประเดี๋ยวประด๋าว หรืออยู่เหมือนไม่ได้อยู่ คือ ไปๆ มาๆ ยกเว้น แม้ไม่มีดาวปัตนิเกิดแต่มีสภาพเป็นดาวศรี หรือ เดช เช่น คนเกิดเดือนอ้าย/เก้า (ดาว ๑) ปีฉลู (ดาว ๒) วันอังคาร (ดาว ๓) ดาววาสนา คือ ศุกร์ (ดาว ๖) ในทักษามหายุค จะมีดาวเสาร์ (๗) ปัตนิเป็นศรี แม้ดาว ๗ ไม่ขึ้นก็มีสิทธิได้แฟนรวย แถมบางคนรวยแฟนเสียอีก เพราะคนวาสนาศรีส่วนใหญ่ บุคคลิกดี หรือมีเสน่ห์


๓. ดาวปัตนิเป็นกาลี สำหรับผู้ที่มีดาวปัตนิเป็นกาลีนี้มีหลายแบบ เช่น


ก. ไม่มีคู่ครองเลยนับแต่ผิดหวังครั้งแรกในชีวิต เช่น คนปีขาล เดือน ๔


ข. มีคู่นับไม่ถ้วน นับแต่พลาดหวังครั้งแรกแล้ว


ค. มีแฟนกับเขาเหมือนกัน แต่มักถูกติ หรืมักมีตำหนิ เช่น สูงไป แก่ไป ดำไป ฯลฯ


ง. เจ้าตัวอยากอยู่คนเดียวสบายใจดี จะทำอะไรก็มีอิสระ


๔. ดาววาสนาต้องปัตนิ ผู้ที่มีดาววาสนาต้องปัตนิ มักจะเป็นคนที่จะเลือกคบคน เพือนฝูง หรือจะรักใคร ชอบใคร มักไม่พิจารณาก่อน ยิ่งถ้าวาสนาไม่เป็นเดชจากปีเกิดแล้ว จะคบใครก็ย่อมได้ ถ้าเจอคนดีก็ดีไป ถ้าเจอไม่ดีก็แย่ไป แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีคู๋แต่วัยหนุ่มสาวเพิ่งเริ่ม เพราะคู่ไม่เลือก หรือไม่เลือกคู่ นั่นเอง


๕. ดาวเป็นมรณะกัน ความจริงแล้วข้อนี้ผู้เขียนยังหาจุดยืนที่แน่นอนไม่ได้ ขอฝากให้ท่านผู้อ่านที่มีความรู้ช่วยกันค้นต่อไป ส่วนใครจะคว้าอะไรได้นั้นก็สุดแท้แต่ แต่ในความเห็นที่พบมาแล้ว ผู้ที่มีดาวเป็นมรณะกัน เช่น คนเดือน ๓ มีคู่ปีระกา ควรจะแต่งงานช้า ยกเว้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำงานเกี่ยวกับงานรักษาคนป่วยไข้ เช่น คลีนิค โรงพยาบาล นายแพทย์ หมอ ไม่ห้ามถ้าจะอยู่กินด้วยกัน ทายได้เลยว่า ถ้ามีแฟนแล้วแฟนเป็นดาวมรณะของเรา ถ้าเป็นคนรูปร่างผอมจะอยู่กันได้นาน


๖. มีดาวมนตรีในดวงชะตา (วาสนา หรือ ตนุ เป็นมนตรี) น่าจะดี ผู้เขียนก็เห็นว่าดี เพราะจะเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาหารือเผื่อจะได้ฝากผีฝากไข้กันได้บ้าง ยามขัดสนหรือยามยากขึ้นมา คนที่มีวาสนาเป็นมนตรีนอกจากจะเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาได้แล้ว ยังเอาอกเอาใจเก่งอีกด้วย แต่ข้อเสียคือ มักจะไม่เอาใจแต่แฟนคนเดียว ยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปเอาใจคนนอกบ้านอีกด้วย คือมักเจ้าชู้นั่นเอง จึงมักทำให้รักมีปัญหาตามมา ถ้าลดๆ ได้นับว่าดีทีเดียว


๗. มีดาวใหญ่ (ปีเกิด วาสนา เดือนเกิด) เป็นอุตสาหะแก่กันและกัน ตามอาจารย์ท่านว่าค้าขายดี ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้น คือ มักจะมีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย เช่น อยู่ไกลกัน ต้องโยกย้าย เสียเวลาเดินทาง หรือที่อยู่อาศัยนั้นต้องอยู่ภายใต้กฏระเบียบ เช่น กรมทหาร หอพัก หรืออยู่กันมากๆ คน มากคนเข้าก็เลยกลายเป็นมากเรื่องไป ข้อนี้ถือว่าไม่รุนแรง เพียงแต่ทำให้อึดอัดใจเป็นบางระยะ ส่วนใหญ่จะเป็นระยะต้นๆ บางดวงก็ต้องไปอยู่กันต่างถิ่นหรือต่างแดนหลังแต่งงาน แต่บางคู่พอหลังแต่งงานแล้วก็พากันไปฮันนีมูนที่ต่างแดนแล้วก็กลับมาอยู่ ห้องแคบๆ ที่เดิม


๘. ดาวปัตนิ มีตำแหน่งเสียในดวงเกิด (ตามระบบจันทรคติ) คือ มีตำแหน่งเป็นประ หรือนิจ



อาจารย์สมชาติ กิจยรรยง


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น