วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ชัยภูมิไทย


ชัยภูมิไทย..อาจารย์สอบตก

ถ้าเอ่ยถึง "ฮวงจุ้ย"  ผู้อ่านน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก  แต่ถ้าเอ่ยถึง "ชัยภูมิไทย"  หลายคนอาจจะคิดไปถึงตำราการปลูกเรือน ที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการเลือกพื้นที่ที่อยู่อาศัย  การชิมดิน  การหาวันปลูกเรือนแบบง่ายๆ การคัดเลือกเสาสร้างเรือนเป็นต้น   

ซึ่งตำราการปลูกเรือนนี้พบเห็นอยู่ในตำราพรหมชาติ  ไม่ได้บอกเลยว่าสิ่งที่กล่าวไว้ในตำรานั้น ดีอย่างไร ใช้ได้สำหรับทุกคนหรือไม่   กลายเป็นว่าวิชาชัยภูมิของไทยเป็นเหมือนตำราสำหรับช่างสร้างบ้านสมัยก่อนเอาไว้คุย และเรียกค่าก่อสร้างบ้านหรือค่าวิชากับผู้ที่จะสร้างบ้านได้มากขึ้นนั่นเอง

แท้จริงแล้ววิชาที่เกี่ยวกับชัยภูมิของไทย  มีมานานแล้วและวิจิตรพิสดารไม่แพ้วิชาของชนชาติอื่นเลย  เพียงแต่ไม่ค่อยเผยแพร่เป็นที่รู้จักแก่สายตาคนทั่วไป  ทั้งนี้มีสาเหตุอยู่ก็คือ  วิชาเหล่านี้จะถ่ายทอดให้เฉพาะผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์จนถึงขั้นการพยากรณ์เดิมและจรได้เป็นอย่างดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์แขนงไหนของไทย เช่น ดวงจักรราศี   เลข ๗ ตัว หรือแม้แต่วิชาทักษา   ทำให้ผู้ที่เรียนมีจำนวนน้อย   

อีกทั้งวิชาว่าด้วยชัยภูมินี้ก็มีผสมผสานกับการปรับแก้หรือเสริมชะตาชีวิตด้วยวิธีอื่น   ไม่ได้แยกออกมาเป็นเอกเทศเหมือนฮวงจุ้ยของจีนหรือ Vastu ของอินเดีย   ทั้งคนไทยไม่ใช่ผู้ชำนาญทางด้านการส่งเสริมการตลาดแบบคนจีน     มักจะเก็บวิชาเอาไว้คนเดียวหรือสอนให้เฉพาะลูกหลานหรือคนที่เหมาะสมเท่านั้น   จึงทำให้วิชาว่าด้วยชัยภูมิเป็นเสมือนวิชาที่ปกปิดหรือไม่เคยมีอยู่ในเมืองไทยในสายตาคนทั่วไป

เรื่องชัยภูมิไทยนี้  มีการใช้เพื่อส่งเสริมชะตาชีวิตของเจ้าของบ้านไม่แตกต่างจากวิชาฮวงจุ้ย  มี หลายระดับขึ้นอยู่กับความถนัดและวิชาที่ใช้ของหมอดู  อย่างง่ายๆ ก็เป็นเรื่องดูพื้นที่ว่างเปล่าที่ยังไม่สร้างบ้านเรือน หรือดูตำแหน่งเสาเอก เสาโท ทิศทางของเรือน และการหาวันที่ดีในการสร้างบ้านหรือหาฤกษ์ลงเสาเอกเป็นต้น

ระดับที่ลึกไปกว่านั้น ก็คือ การจัดตำแหน่งเครื่องเรือน   ห้องน้ำ ห้องนอน ทิศหัวนอน  ให้เหมาะสมกับผู้ที่อยู่อาศัยแต่ละคน  หรือการอ่านชะตาชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านหลังหนึ่งๆ ผ่านทางตำแหน่งทิศทางของบ้าน เป็นต้น

การปรับตำแหน่งเครื่องเรือนภายในบ้านหรือสถาปัตยกรรมภายใน ก็เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชัยภูมิไทยด้วยเช่นกัน  บางครั้งการปรับแก้ไม่จำเป็นต้องทุบ รื้อ ถอน โครงสร้างของบ้าน  เพียงแต่จัดแต่ง ต่อเติมสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ หรือการใช้สีเป็นตัวเสริม ก็อยู่ในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน    

ที่ผู้อ่านเห็นว่าวิชาของต่างประเทศมีข้อดีหรือใช้อย่างไรได้บ้างนั้น  วิชาชัยภูมิของไทยก็มีใช้แบบเดียวกันหรืออาจจะมีบางอย่างมากกว่าเสียด้วยซ้ำ อย่างเช่น  สามารถแนะนำให้ปรับแต่งสภาพบ้านให้เหมาะสมกับเจ้าชะตาโดยดูผ่านดวงชะตาของเจ้าของบ้าน  การอ่านผ่านเลขที่บ้าน  หรือแม้แต่การจับยามกาลชะตา โดยไม่ต้องไปดูสถานที่ก็ทำได้ เป็นต้น

วิชาสายใดบ้างที่ใช้กับชัยภูมิแบบไทย ๆ
เท่าที่ผู้เขียนสัมผัสหรือพบเจอ การใช้วิชาโหราศาสตร์กับเรื่องชัยภูมิในระดับที่กล่าวในข้างต้นนั้น  ก็มีดังนี้
๑.     วิชาเลข ๗ ตัว ใช้ประกอบกับทักษา
๒.     วิชาโหราศาสตร์แบบลัคนาเดียว
๓.     วิชาโหราศาสตร์แบบลัคนาเดียวใช้ร่วมกับทักษา
๔.    วิชาทักษายุค

ชัยภูมิไทยนั้นจะใช้เพียงทิศแปดทิศเท่านั้น ไม่นิยมซอยทิศให้ละเอียดมากไปกว่านั้น และปรับแต่งชัยภูมิของไทย มักจะใช้การปรับผ่านดวงชะตาบุคคลโดยเฉพาะเจ้าบ้าน ที่เป็นใหญ่หรือเป็นผู้ทำรายได้ให้กับคนในครอบครัวเป็นหลัก  มีทั้งการปรับแต่งจากพื้นดวงเดิม และปรับจรปีต่อปี    
ส่วนการดูทิศหน้าบ้านประกอบ จะมีเพียงบางสายวิชาเท่านั้น (ของไทยนิยมวัดทิศหน้าบ้านซึ่งต่างจากฮวงจุ้ยของจีนที่วัดจากทิศหลังบ้าน)

สิ่งที่ผู้อ่านหลายท่านเคยพบเห็นกันมาก่อนคือ  เมื่อไปดูดวงกับหมอ  มักจะโดนทักหรือทายสิ่งของที่อยู่หน้าบ้านบ้าง หลังบ้านบ้าง  ทั้งๆ ที่ตัวหมอเองไม่เคยไปเห็นมาก่อน  อาศัยอ่านผ่านดวงชะตาของลูกค้าเท่านั้น  เพียงแค่นี้ผู้ที่ศึกษามาทางด้านชัยภูมิไทย ก็สามารถแก้ไขปรับดวงชะตาของลูกค้าให้ดีขึ้นได้ ด้วยการปรับชัยภูมิภายในบ้านของลูกค้าที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้ 

ทั้งๆ ที่สามารถแก้ไขได้เช่นเดียวกับฮวงจุ้ย  แต่ไม่สามารถเรียกค่าบริการได้ เท่ากับการเชิญซินแส ไปดูสถานที่ นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่บางคน หันเหไปเริ่มต้นเรียนฮวงจุ้ย  เพียงเพื่อปรับราคาค่าบริการได้ง่ายขึ้นนั่นเอง   

การปรับชัยภูมิแบบไทยมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือ สามารถตรวจเช็คเหตุการณ์ได้ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่มั่วแบบว่า "ปรับแล้วดีน่อ แต่จะดีเมื่อไหร่ อั้วบอกให้ม่ายล่าย ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับฟ้า เป็นความลับของสวรรค์   ถ้าลื้อทำความดีมากๆ   ฟ้าย่อมมีตาประทานโชคแก่ลื้อเอง"

บางครั้งผู้ที่ใช้วิชานี้ ไม่จำเป็นต้องดูจากดวงกำเนิดของลูกค้าก็ได้ อาจจะใช้ยามกาลชะตาเป็นตัวตั้งต้นในการคำนวณหาวิธีแก้ชัยภูมิเพื่อปรับดวงชะตาให้ลูกค้าได้เลย 
 
ครั้งหนึ่งผู้เขียนไปตัดผมที่ร้านทำผมใกล้บ้านพร้อมกับ ผบ.ทบ.   ขณะที่ตัดผมอยู่นั้นเจ้าของร้านก็เอ่ยเรื่องสามีที่มีเมียน้อยกำลังจะเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับเมียน้อย  ครั้น ผบ.ทบ. ผู้เขียนได้ยินดังนั้น  ก็ถ่ายทอดคำสั่งด่วนให้ผู้เขียนหาทางช่วยทันที   

ผู้เขียนใช้การจับยามแบบทักษายุค แล้วแนะนำให้เจ้าของร้านหารถยนต์เด็กเล่น ไปวางไว้ที่ตำแหน่งหัวเตียงในห้องนอน ของเจ้าของร้าน  ซึ่งเจ้าของร้านก็รีบจัดการในวันนั้นเลย

หลังจากนั้น เมื่อผู้เขียนกลับไปตัดผมที่ร้านนี้อีกครั้ง  เจ้าของร้านก็มาเล่าถึง ผลของการวางสิ่งของที่หัวเตียงว่า  สามีของเจ้าของร้านได้กลับมาเก็บเสื้อผ้าในวันรุ่งขึ้น เพื่อจะไปอยู่กับเมียน้อย  ได้เห็นรถเด็กเล่นที่อยู่บนหัวเตียง (รถคันนี้เป็นของเล่นของลูก)  ก็เอ่ยว่า นี่เล่นของหรือเปล่า   จากนั้นก็ออกจากบ้านหายไปหนึ่งวัน  วันต่อมาสามีเจ้าของร้านก็หอบเสื้อผ้ากลับมา และบอกว่าได้เลิกกับเมียน้อยแล้ว...
 
อะไรจะขนาดนั้น... โอ้โห..วิชาเราใช้ได้จริงๆ คงเป็นบุญของเจ้าของร้านตัดผมรายนี้ด้วย   (ผู้เขียนนึกในใจนะครับ)  ผู้เขียนมาทราบภายหลังว่า บุตรของเจ้าของร้านรายนี้เป็นเด็กออร์ทิสติกและรถของเล่นคันนั้นเป็นของที่สุดโปรดของเด็ก  เมื่อฝ่ายสามีเห็นรถเด็กเล่นในห้องนอน  คงจะมีสำนึกของความเป็นพ่อและตัดสินใจกลับมาในที่สุด

ทางสายวิชาทักษายุค มีการหาดวงชะตาบ้านจากทิศทางหน้าบ้านและประตูบ้าน สร้างรูปแบบดวงมาตรฐานขึ้นมาได้ 768 รูปดวง คล้ายๆกับทางสายฮวงจุ้ยที่มีรหัสบ้าน   เมื่อนำมาอ่านประกอบกับดาวจรปัจจุบัน  สามารถทำนายหรือปรับแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาได้   

ตัวอย่าง บ้านของผู้เขียนเอง เมื่อผูกเป็นรูปดวงบ้านได้ตามนี้
 
             



มีอยู่ช่วงหนึ่ง ดาวเจ้าเรือนลาภะกำลังทำงาน ผู้เขียนจึงย้ายตุ่มน้ำที่อยู่หลังบ้าน (ตำแหน่งลาภะ) ออกในตอนเช้า  จากนั้นก็ออกไปเดินเที่ยวห้าง  เมื่อกลับมาถึงบ้านตอนเย็นก็พบไปรษณียบัตรสองใบจากห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านส่งมา  ให้ลูกของผู้เขียนสองคน (ได้ไปรษณียบัตรคนละใบ) ไปรับสร้อยคอทองคำคนละหนึ่งสลึงจากทางห้างจากการที่ส่งคูปองชิงโชค    นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ผู้เขียนใช้ปรับแก้ภายในบ้านอยู่เป็นครั้งคราว  เพื่อทดสอบวิชานั่นเอง

การจัดแต่งเครื่องเรือนหรือปรับทัศนวิสัยภายในบ้านเพื่อส่งเสริมดวงชะตาของผู้อาศัยนั้น  อาจจะอ่านผ่านสิ่งต่างๆ ได้หลากหลาย  อย่างเช่น อ่านผ่านเลขที่บ้าน หรือว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวพันกับบ้านหลังที่ต้องการดูก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน   

ขอยกตัวอย่าง การอ่านเลขที่บ้านจากเว็ปที่เกี่ยวกับการพยากรณ์ที่ผู้เขียนเข้าไปตอบสักตัวอย่างหนึ่ง  ที่ ยกตัวอย่างนี้มาก็เพราะเป็นตัวอย่างที่หลายๆท่านได้เห็นเป็นพยานมาแล้ว  ไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาเพื่อสนับสนุนบทความนี้ให้ดูน่าเชื่อถือนะครับ

เรื่องก็มีอยู่ว่า  มีผู้สนใจให้ดูว่าบ้านเลขที่ 315/152 เป็นอย่างไรบ้าง และวิธีแก้ไขอย่างไร   โดยเข้ามาถามเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2548

ก่อนที่จะตอบคำถามนั้น จำเป็นต้องเช็คข้อมูลดูก่อนว่าสิ่งที่ทำนายออกไปนั้น ถูกต้องใกล้เคียงกับสภาพจริงของผู้ที่ถามหรือไม่  โดยทำนายออกไป 3 ข้อ คือ

จากเลขที่บ้าน ผู้เขียนทำนายโดยใช้วิชาทักษายุคว่า
๑. ลูกสาวของเจ้าของคำถาม เป็นคนฉลาด กล้าแสดงออกเหมือนเด็กผู้ชาย หน้าตาค่อยข้างไปทางพ่อมากกว่าแม่
๒. น่าจะอยู่บ้านนี้มาประมาณ ๑๐-๑๑ ปี ไม่ใช่บ้านใหม่
๓. เมื่อ ๓ ปีก่อน แฟนเจ้าของคำถามไปมีกิ๊ก คาดว่าเป็นเพื่อนร่วมงานหรือคนที่อยู่ในที่ทำงานเดียวกัน ส่งผลให้แยกทางกันเมื่อปีที่ผ่านมา

ซึ่งเจ้าของบ้านหลังนี้ตอบว่า คำทายข้อ 1 และข้อ 3 ถูกต้อง   ส่วนข้อ 2 คลาดเคลื่อนไป เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านใหม่ เข้าอยู่แบบซิงๆเลย และอยู่มาก็ 9 ปีกว่าแล้ว (หน้าแตกอีกแล้ว..ที่ทายคลาดเคลื่อนไปเกือบปี)  

จริงสิ..ผู้เขียนลืมไปว่า การคำนวณย้อนกลับไปในอดีตนั้น  จะนับตั้งแต่ช่วงที่ถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของซึ่งก็น่าจะไม่ผิดเพราะปกติเมื่อซื้อบ้านใหม่ย่อมมีการตกแต่งก่อนเข้าอยู่กันทุกราย  และบางรายใช้เวลากว่าหนึ่งปี

เนื่องจากผู้เขียนใช้วิชาทักษายุค  อาจทำให้ผู้อ่านส่วนใหญ่ไม่เข้าใจหรืออยากรู้ว่าทำไมถึงทำนายได้  ผู้เขียนจึงขอเปลี่ยนเป็นรูปดวงจักรราศีเพื่อให้ผู้อ่านพอมองเห็น ดังนี้



 



ถ้ามองผ่านดวงจักรราศี  ให้นับย้อนจากตนุลัคน์เดินกลับไปจนถึงราศีกุมภ์  ตามแนวทางชันษาจรของอาจารย์อรุณ  จะได้ ๑๐ ปี ย่างปีที่ ๑๑  เช่นกัน  ส่วนว่าทำไมถึงนับไปถึงราศีกุมภ์นั้น มีเหตุและผลอยู่ซึ่งต้องอธิบายยืดยาวเกินกว่าจะเป็นบทความสั้นๆ ได้  จึงขอละเอาไว้  ท่านผู้อ่านหลายท่านคงอ่านได้ว่าบ้านหลังนี้เปรียบเสมือนลาภะของเจ้าของคำถามนี้  ใช่ครับ..เป็นบ้านของทางฝ่ายสามีซึ่งให้เจ้าของคำถามอยู่อาศัยอยู่กับลูกสาว

หลังจากเช็คข้อมูลเบื้องต้นว่ารูปดวงนี้ถูกต้องแล้ว  ผู้เขียนได้แนะนำการจัดเครื่องเรือนเพื่อส่งเสริมด้านการงานของเจ้าของคำถาม  และแจ้งให้ทราบว่าเจ้าของคำถามนี้สามารถอยู่บ้านหลังนี้ได้อีกประมาณห้าปีก่อนที่จะย้ายออกจากบ้านหลังนี้

อย่างที่เกริ่นเอาไว้แล้วว่า วิชาว่าด้วยชัยภูมิของไทยนั้น มีอะไรหลายอย่างที่ดูพิสดารในสายตาของคนทั่วไปที่ได้สัมผัส   ส่วนท่านที่สนใจวิชาเหล่านี้ก็ขอแนะให้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยแขนงใดแขนงหนึ่งให้แตกฉานอ่านออกบอกได้ทั้งเดิมและจรเสียก่อน  เมื่อได้ศึกษาวิชาชัยภูมินี้แล้วผู้เขียนรับรองว่า ไม่มีคำว่าผิดหวังและน่าเสียดายมากถ้าไม่ได้ศึกษาวิชาของไทยแบบนี้ครับ  .....สวัสดี

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น