วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การทายย้อนอดีตจากชะตาจร


การทายย้อนอดีตจากชะตาจร...สอบตก
เมื่อชาติที่แล้ว    คุณเป็นขุนศึกในสมัยกรุงศรีอยุธยา………” 

คำทำนายของหมอดูบางคนที่ชอบอ้างว่าสามารถทายอดีตชาติได้  โดยที่คนทั่วไปไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่จริงนั้น อาจทำให้หลายคนทึ่งและแปลกใจเอามากๆ  

แต่ ในขณะเดียวกันก็ทำให้หลายๆ คนกล่าวหาว่า วิชาโหราศาสตร์ เป็นวิชาที่เหลวไหลงมงาย หรือกรณีที่เก็บตกมาจากเว็ปบอร์ดโหราศาสตร์เว็ปหนึ่งที่ว่า

เชื่อหรือไม่ว่าผู้ที่ปฏิบัติธรรมทุกวัน ขนาดอาจารย์ที่ว่าแน่ยังไม่สามารถทายดวงได้ ผมทดสอบมาแล้ว

นี่ ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้วิชาพยากรณ์ศาสตร์ต่างๆ เป็นที่ดูถูกดูแคลนในสายตาของบุคคลบางกลุ่ม จึงเป็นที่มาของการค้นหาวิธีการพยากรณ์ย้อนอดีตจากดวงจรของผู้เขียน เพื่อลบคำปรามาสเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ 

ซึ่งถ้าวิธีการทายเหตุการณ์ในอดีตจากดวงจรปัจจุบันได้แล้ว  นั่นก็หมายความว่า การทายอดีตชาติจากดวงกำเนิดคงจะไม่ใช่เรื่องเหลวไหล   

ในขณะเดียวกันการพยากรณ์ดวงชะตาของผู้ที่ปฏิบัติธรรมเป็นสรณะนั้น  ดวงกำเนิดอันเป็นฐานข้อมูลที่สะสมผลกรรมในอดีตจนถึงวันที่เกิดนั้น อาจไม่สามารถทายเหตุการณ์ในปัจจุบันได้  เนื่องจากผู้ปฏิบัติธรรมเป็นผู้ที่ทำกรรมดีและได้รับผลของกรรมในปัจจุบันมากกว่าผลกรรมที่ทำมาแต่อดีตชาติ    

ดังนั้นการใช้ดวงจรปัจจุบันทายอดีตที่ผ่านมาของผู้ที่ปฏิบัติธรรมจึงน่าจะให้ผล ที่ถูกต้องแม่นยำกว่าการใช้ดวงกำเนิดเพียงอย่างเดียวสำหรับกรณีเหล่านี้

เมื่อเร็วๆนี้ มีผู้เข้ามาถามปัญหาเกี่ยวกับการพยากรณ์จรจากวิชาเลข ๗ ตัว  ผู้เขียนได้ลองใช้หลักการอ่านอดีตจากดวงจร  ซึ่งปกติผู้เขียนใช้กับวิชาทักษายุคและดวงจักรราศีอยู่  ปรากฏว่าเป็นผลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง  จึงนำมาขยายให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณาดู

คำถามมีอยู่ว่า
เจ้าชะตา เกิดวันอังคาร  เดือนสาม  ปีมะเส็ง  พ.ศ. ๒๔๙๗    เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๑๗  มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเจ้าชะตา
 
(ผู้ถามกำหนดให้ใช้วิชาเลข ๗ ตัว เนื่องจากดูจากวัยจรแล้ว มองไม่เห็นจุดที่ทายถึงเหตุการณ์ในวันนั้น)

ลองตั้งเลข ๗ ตัว จากวันเกิดขึ้นมา

๑๒
๑๕
๑๑
๑๔
๑๗


ปัญหาในการดูวัยจรสำหรับกรณีนี้คือ
วันที่เกิดเหตุ  คือ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๑๗  ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ  เดือนสี่  ปีฉลู   
เมื่อนับวัยจรเป็นช่วงอายุย่าง ๒๑  ปีจร จะตกที่ มัชฌิมา-ปัตนิ-ลาภะ-มหาโจร-ภริยัง   
ดาว ๒  ฐาน ๑๔  จากวัยจร บ่งบอกถึงเจ้าชะตาเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องฐานะของคู่ครอง 

แต่เนื่องจากไม่ได้บอกวันเกิดที่แน่นอน  การนับเดือนจรจะมีโอกาสคาบเกี่ยวอยู่สองเดือน ทำให้การทายเหตุการณ์ยังไม่สามารถตัดเรื่องได้อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการกำหนดวันที่เกิดเหตุการณ์ด้วย   
ถ้าไม่มีการใช้ทักษาวันเกิดหรือวิชาอื่นเข้ามาช่วยตัดเรื่อง จำเป็นต้องพิจารณาจากเหตุการณ์จรปีเป็นหลัก พร้อมกับการพิจารณาวันที่เกิดเหตุเป็นส่วนประกอบ

เมื่อตั้งชะตาเลข ๗ ตัว ณ วันที่เกิดเหตุ (๑ มีนาคม ๒๕๑๗ ) ดังนี้

๑๒
๑๕
๑๑
๑๔
๑๐
๑๓

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ถามปัญหานี้  บอกเพียงแต่ว่าเมื่อดูจากอายุจรแล้ว  ไม่มีจุดบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดในวันนั้นแสดงให้เห็นว่า   การดูจากจรปีหรือจรเดือนยังไม่ได้บ่งถึงจุดเหตุการณ์อย่างชัดเจน  อาจจะต้องพิจารณาถึงจรวันด้วย   

ในกรณีนี้ เราไม่สามารถคำนวณหาอายุชำระได้  เนื่องจากไม่ทราบวันเกิดที่แน่นอน  ในตัวอย่างนี้จรปีเป็นดาว ๒  เมื่อดูจากวันจรที่เกิดเหตุ  ดาว ๒ เป็น ปิตา อริ -มรณะ-มหาโจร-ภริยัง    บ่งถึงการสูญเสียหรือการเจ็บป่วยเท่านั้น


ที่นี้มาลองดูจากการทายย้อนอดีตจากวันจร หรือ วันที่มาถามปัญหานี้คือ 
วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๘  ตรงกับวันจันทร์  ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒  ปีระกา   

ลองตั้งชะตาเลข ๗ ตัวได้ดังนี้

๑๐
๑๓
๑๖
๑๒
๑๕
๑๑

เมื่อนับย้อนจากวันที่ถามจนถึงวันที่เกิดเหตุ  เป็นเวลา ๓๑ ปี ๗ เดือน ๒๘ วัน  ก็ให้เริ่มนับย้อนหลังจาก

ปีที่ ๑ ที่มัชฌิมา  ไล่ย้อนหลังไป (โดยนับจากมัชฌิมา โภคา มาตา ปิตา...อัตตะ แล้วไปเริ่มต่อที่ฐานปี ฐานเดือน และฐานวัน ตามลำดับ) จนถึงวันที่เกิดเหตุ  ซึ่งการนับแบบนี้จะมีความยุ่งยากและอาจนับผิดพลาดได้ง่าย  จึงใช้วิธีการนับย้อนปีอายุย่าง ๓๒ ปีก่อน  ตกที่ลาภะ ดาว ๖  

วางตำแหน่งปีจรย้อนหลัง   แล้วไล่หาวัยจรเดินหน้าจนถึงวันที่เกิดเหตุตามวิธีนี้

ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒  พ.ศ. ๒๕๑๖
ย้อนหลัง ๓๒ ปี
ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒  พ.ศ. ๒๕๔๘


วันจรที่ถาม

ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒  พ.ศ. ๒๕๑๖
เดินหน้า  ๔ เดือน ๒ วัน
๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๗  
     วันที่เกิดเหตุการณ์

เริ่มนับปีจรย้อนหลัง  ที่ วันขึ้น ๖  ค่ำ  เดือน ๑๒  พ.ศ. ๒๕๑๖ (ตามดิถีขึ้นแรมของวันจรที่มาถามปัญหา)  นับถึงวันขึ้น ๘  ค่ำ  เดือน ๔   แสดงว่า  
อายุจรเดินไปข้างหน้าได้  ๔ เดือน ๒ วัน ไล่อายุจนถึงจรวันจะตกที่ หินะ อริ มรณะ อาตมา นาวัง

จากวันจรที่ตกนั้น  เจ้าชะตาจะพบปัญหาหรืออุปสรรคที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการเดินทาง  จะพลัดถิ่นที่อยู่ของเจ้าชะตาโดยจะอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางหรือมีโรคภัยเบียดเบียน

เจ้าของคำถามเฉลยว่า เจ้าชะตาตกรถจักรยานบาดเจ็บที่ไตจนตกเลือดต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวเป็นอาทิตย์

คำถามต่อมาคือ  ในปีนี้เจ้าชะตาซื้อตึกราคา ๓ ล้าน ๕ แสนบาท  แต่ในพื้นดวงเดิมไล่อายุจรแล้ว จรปีตกตำแหน่ง  ธนัง- สหัชชะ ทาสา-อาตมา-เคหัง   ดาว ๕ ฐาน ๙  จากปีจรที่ตกนั้น  

เจ้าชะตาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ได้มาจากการติดต่อหรือทางเพื่อนที่เป็นสิ่งที่มั่นคง    ที่เจ้าชะตาคิดว่าคงเป็นที่อยู่อาศัย คาดว่าผู้ถามปัญหาใช้เลข ๗ ตัว ๔ ฐาน (เมื่อจรปีไม่ตกที่ พันธุ  จึงมีความสงสัย ) แต่เมื่อดูจากเลข ๗ ตัว ๙ ฐาน จะมีส่วนขยายในเรื่องของ เคหัง

ทีนี้ลองอ่านอดีตจากวันจร  ตามหลักการข้างต้น  ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา 
ปีจรจะตกที่ มัชฌิมา -พันธุ ทาสี - ทาสะ -เคหัง   แสดงว่า ปีที่ผ่านมา  เจ้าชะตามีเรื่องที่เกี่ยวพันกับเรื่องบ้านที่อยู่อาศัย   เมื่อไล่เดือนจรจนไปตกที่ภพพันธุ คือ ช่วงเดือนมีนาคม (เดือน พ.ย. - มัชฌิมา  เดือน ธ.ค. ตนุ เดือน ม.ค. กดุมภะ   เดือน ก.พ. สหัชชะ   เดือน มี.ค. พันธุ)   ทายว่า เจ้าชะตาน่าจะมีการซื้อบ้านในเดือนนั้น

เจ้าของคำถาม เฉลยว่า  เจ้าชะตามีการวางมัดจำก่อนวันเกิด  และทำสัญญาส่งเป็นงวดๆ หลังวันเกิด คือในช่วงเดือนมีนา  หรือเมื่อแปดเดือนที่ผ่านมา


ทีนี้ลองมาเช็คดวงอีกสักเหตุการณ์หนึ่ง คือ 

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2542  ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๓  ปีขาล เวลาทุ่มกว่าๆ   
  
เจ้าชะตาขับรถชนกับรถมอเตอร์ไซด์ ต้องเสียค่าทำขวัญ10,000.-บาทเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหกปีเศษ    
ใช้หลักการเดิมคือ นับจากวันที่มาถามปัญหา(๗ พ.ย. ๒๕๔๘) ย้อนกลับไป ๗ ปี   แล้วนับเดินหน้ามาถึงวันเกิดเหตุได้ ๓ เดือน ๗ วัน  ตก โภคา-สหัชชะ -พยายะ-มหาโจร-อัตตะ  จากวันจรที่ตก ขยายความว่าเจ้าชะตาถึงจะมีหลักทรัพย์ที่สมบูรณ์แต่ก็ไม่สามารถเก็บรักษาทรัพย์สินได้เนื่องจากตัวเจ้าชะตาเอง

* การอ่านย้อนอดีตไล่ไปถึงวันที่เกิดเหตุ  ให้ระวังเรื่องของการนับวันหรืออายุชำระให้ดี  โดยให้ตัดวันจากเวลาที่มีผู้มาถามปัญหา  ไม่ได้ใช้เวลา ๖.๐๐ น.ตามปกติ    

ในกรณีตัวอย่างนี้  ผู้มาถามปัญหาเวลาประมาณ ๑๐.๕๐ น. เหตุการณ์ที่เกิดหลัง ๑๐.๕๐ น. จึงถือว่าอายุย่างวันใหม่   ส่วนปฏิทินจันทรคติปี ๒๕๔๘ มีการคลาดเคลื่อนตามที่เป็นข่าวกัน  ขอให้ระวังในการคำนวณอายุเป็นรายวันด้วย  วันที่ถามปัญหาเป็นวันจันทร์ ดิถี ๗ ค่ำ  แต่ผู้เขียนอ้างอิงปฏิทินทั่วไปเพื่อความสะดวกและไม่ให้เป็นที่สับสนสำหรับผู้ที่อ่านบทความนี้ในภายหลัง

การใช้วิธีการอ่านย้อนอดีตจากวันจรที่มีผู้มาถามปัญหาหรือมาดูดวง   เป็นการใช้ข้อมูลสองทาง  นอกเหนือจากการใช้วันเกิดเพียงอย่างเดียว   

เป็นการสรุปเรื่องหรือตัดเรื่องราวให้กระชับขึ้น  เพราะวันจรที่เจ้าชะตามาถามนั้น  เป็นฐานข้อมูลที่รวบรวมจากอดีตจนกระทั่งถึงวันที่เจ้าชะตาได้มาดูดวงด้วย   

ดังนั้นข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้จากกรรมใหม่ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันหรือการกระทำ  ซึ่งไม่ได้มีผลจากกรรมเก่าในอดีตชาติจึงมีครบถ้วน    

แม้แต่การที่จะทำนายผู้ที่ปฏิบัติธรรมเป็นสรณะจึงน่าจะมีความแม่นยำกว่าการใช้แค่ข้อมูลเรื่องวันเกิดเพียงอย่างเดียว….

การทายวันจรนั้นสามารถจะทายได้แม่นยำต้องมีพื้นฐานการทายดวงเดิมมาก่อน  ต้องเป็นไปตามระบบแบบแผนไม่ควรเรียนแบบท่องจำ  แต่ควรศึกษาให้เข้าใจ   แล้วนำมาประยุกต์เพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบัน  โดยไม่ยึดติดกับตำรา  แต่ให้ตำราเป็นสิ่งที่ใช้นำทางเพื่อพัฒนาต่อไป   

อย่างกรณีนี้ โดยทั่วไปแล้วการใช้วันจรที่เจ้าชะตามาดูดวง  ส่วนใหญ่ใช้เพื่อประกอบการทายเหตุการณ์ปัจจุบันและอนาคตอันใกล้เท่านั้น  แต่เมื่ออาศัยหลักการหาอายุจรจากตำรามาใช้หาอายุจรในอดีตโดยการใช้ย้อนกลับ  ก็สามารถทายเหตุการณ์ในอดีตได้เช่นกัน

สอบตก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น